HoonSmart.com>> “แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป” (LHFG) เปิดงบไตรมาส 2/66 กำไรสุทธิ 532 ล้านบาท เติบโต 128% หนุนครึ่งปีแรกกำไร 1,201.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.3% แรงหนุนจากแบงก์แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์กําไรสุทธิทะยาน 119% สินเชื่อขยายตัว พร้อมตั้งสำรองอย่างระมัดระวัง หนี้เสียเพิ่มขึ้นแตะ 2.32% จาก 2.09% สิ้นปีก่อน
บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHFG) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2566 กำไรสุทธิ 532.04 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.025 บาท เติบโต 128.12% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 233.23 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.011 บาท เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดําเนินงานอื่นกําไร (ขาดทุน) สุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกําไรหรือขาดทุน และรายได้เงินปันผล
ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2566 กำไรสุทธิ 1,201.91 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.057 บาท เพิ่มขึ้น 61.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 744.97 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.035 บาท
กำไรครึ่งปีแรกเติบโตจากสาเหตุหลักการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่มีกําไรสุทธิ 943.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อน จากการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อและการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ ทั้งนี้ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ยังคงตั้งสํารองค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามหลักความระมัดระวังเพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อ และรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือลูกค้า โดยอัตราส่วนสํารองต่อสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต (Coverage Ratio) อยู่ที่ 228.73% และอัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) เพิ่มขึ้นจาก 2.09% ณ สิ้นปี 2565 เป็น 2.32% ณ ไตรมาส ที่ 2 ปี 2566
ผลการดําเนินงานของธนาคารครึ่งแรกของปี 2566 ธนาคารยังคงมุ่งเติบโตในพอร์ตสินเชื่อที่สร้างผลตอบแทนที่ดีหรือกลุ่ม Higher Yield ภายใต้การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเติบโตมากกว่า 16% จากสิ้นปี 2565 การขยายฐานลูกค้าเงินฝากรายย่อยผ่านช่องทางดิจิทัล โดย Mobile Application ใหม่ ได้แก่ LHB YOU ที่ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าแต่ละบุคคล และได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษ B YOU MAX ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพื่อขยายฐานลูกค้าควบคู่กับทําการตลาดผลิตภัณฑ์อื่น
นอกจากนั้นได้พัฒนาบริการ Trade Finance เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการทําธุรกรรม รวมทั้งการ Collaboration ภายในบริษัทในกลุ่มการเงินเพื่อบริหารฐานลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิงขึ้น การเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี (Digital Transformation) เพื่อใช้เทคโนโลยีในการให้บริการลูกค้าให้รวดเร็วทุกที่ ทุกเวลา รวมถึงการนําระบบ Robotic Process Automation และ Data Analytic Tools ต่างๆ มาช่วยในการทํางาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายฐานลูกค้า