ดาวโจนส์ปิดลบ 61 จุด รอรายงานประชุมเฟดล่าสุด-จับตาเฟดประชุมประจำปี

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ ดาวโจนส์ลดลง 61 จุด นักลงทุนชะลอซื้อขายก่อนเผยแพร่รายงานการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุดของเฟดในวันพุธและจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสันโฮล ในวันพฤหัสบดี เพื่อหาสัญญาณประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ย. “ราคาน้ำมันดิบ” ลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 20สิงหาคม 2567 ปิดที่ 40,834.97 จุด ลดลง 61.56 จุด หรือ -0.15% นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนการเผยแพร่รายงานการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันพุธ ในขณะที่จับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่จะเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดี เพื่อหาสัญญานการตัดสินใจในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนกันยายน

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,597.12 จุด ลดลง 11.13 จุด, -0.20%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,816.94 จุด ลดลง 59.83 จุด, -0.33%

ชัค คาร์ลสัน ซีอีโอของ Horizon Investment Services กล่าวว่า สัปดาห์ที่แล้วเป็นสัปดาห์ที่ตลาดปรับตัวขึ้นได้ดีที่สุดของปี และไม่คิดว่าภาวะตลาดวันอังคารบ่งชี้ว่าแนวโน้มจะเปลี่ยนไป เพียงแต่นักลงทุนชะลอการซื้อขายและพักหลังจากที่ลุยลงทุนเต็มที่ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในสัปดาห์นี้นักลงทุนเตรียมพร้อมรับการประชุมของธนาคารกลางทั่วโลกที่ แจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิงที่จะมีขึ้นวันที่ 22-24 สิงหาคม ซึ่งประธานเฟด นายพาวเวลล์ มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ แต่ก่อนหน้านั้นนักลงทุนรอการเผยแพร่รายงานการประชุมนโยบายการเงินเดือนกรกฎาคมของเฟดในวันพุธ

นักลงทุนจะวิเคราะห์คำปราศรัยของพาวเวลล์เพื่อหาสัญญานจำนวนครั้งและจังหวะเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้และปีหน้า

คาร์ลสันกล่าวว่า คำถามก็คือ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเป็น 0.25% หรือ 0.50% ซึ่งสิ่งที่เฟดไม่ได้บอกตรงๆนั้นมีมาก ก็ต้องพยายามดูว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะแรงแค่ไหน

เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า ตลาดมองว่ามีความน่าจะเป็น 69.5% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมคณะกรรมการ FOMC ในเดือนกันยายน และมีโอกาส 30.5% ที่จะลดดอกเบี้ย 0.50%

ในวันพุธคาดว่า กระทรวงแรงงานอาจจะเผยแพร่รายงานทบทวนข้อมูลการจ้างงานในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนมีนาคม หากมีการแก้ไขข้อมูลอย่างมีนัยสำคัญอาจส่งผลกระทบต่อแนวทางนโยบายการเงินของเฟดที่พึ่งพาข้อมูลเศรษฐกิจ

หุ้น Palo Alto Networks บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 7% หลังจากผลประกอบการไตรมาส 4 ของปีบัญชีสูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ และจะซื้อคืนหุ้นในมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์

หุ้น Lowe’s บริษัทค้าปลีกอุปกรณ์ปรับปรุงบ้าน ลดลงมากกว่า 1% หลังจากรายงานรายได้ที่แย่กว่าที่คาด และปรับลดแนวโน้มกำไรประจำปี จากการชะลอตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภค

หุ้น Bank of America ลดลงประมาณ 2.5% เนื่องจากกลุ่มบริษัท Berkshire Hathaway ของวอร์เรน บัฟเฟต์ยังคงเทขายหุ้นต่อไป

หุ้น Eli Lilly บริษัทผลิตเพิ่มขึ้น 4% หลังจากรายงานว่ายาลดน้ำหนักช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 ได้ถึง 94% ในผู้ใหญ่ก่อนเป็นเบาหวาน

หุ้นเทสลาเพิ่มขึ้น 1.1%% หลังจากรถยนต์ที่ผลิตในจีนซึ่งส่งออกไปยังสหภาพยุโรปจะได้รับการลดภาษี

หุ้นโบอิ้งลดลง 2.5% หลังจากที่หยุดทดสอบการบินรุ่น 777-9 เนื่องจากรอการรับรอง หลังจากส่วนประกอบระหว่างเครื่องยนต์และโครงสร้างเครื่องบินไม่สามารถทำงานได้ในระหว่างการตรวจสอบการบำรุงรักษา

ตลาดยุโรปปิดลบหลังปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 วัน นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนเกาะติดการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคและเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมธนาคารกลางในสัปดาห์นี้ที่เมืองแจ็กสันโฮล สหรัฐ

ดัชนี STOXX 600 ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ในช่วงต้นของวัน ตลาดหุ้นในภูมิภาคทั้งหมดก็ปรับลงเข้าสู่แดนลบเช่นกัน

ราคาน้ำมันที่ร่วงลงฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานลง 2% สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์

ผลสำรวจของรอยเตอร์บ่งชี้ว่า ตลาดหุ้นยุโรปจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในสิ้นปีนี้ เป็นผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง แม้นักวิเคราะห์ระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มของบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรปก็ตาม.

ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นกว่า 7% แล้วในปีนี้

นักลงทุนให้ความสนใจไปที่การเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนกรกฎาคมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธ และความเห็นของประธานเฟดนายเจอโรม พาวเวลล์ ในการประชุมที่แจ็กสันโฮลในวันศุกร์ ซึ่งการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐจะเป็นแรงหนุนครั้งใหม่ต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก

หุ้นกลุ่มสินค้าหรูและกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด

ธนาคารกลางสวีเดนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามคาด และระบุว่าอาจเร่งผ่อนคลายนโยบายการเงิน หากแรงกดดันด้านราคาไม่เพิ่มขึ้น โดยอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 3 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้

ในเยอรมนีดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับที่คาดการณ์

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 512.27 จุด ลดลง 2.32 จุด, -0.45%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,273.32 จุด ลดลง 83.62 จุด, -1.00%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,485.73 จุด ลดลง 16.28 จุด, -0.22%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,357.52 จุด ลดลง 64.17 จุด, -0.35%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 74.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง46 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 77.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

………………………………………………………………………………………………………