เปลี่ยนนายกฯ ฉุดศก.-กำไรบจ. สถาบันถล่มหุ้นยับ แนะตั้งรับต่ำกว่า 1270

HoonSmart.com>>หุ้นไทยสวิงรุนแรงเฉียด 26 จุด เช้าบวก 9 จุด บ่ายดิ่งแรง -16.80 จุด ปิดเด้งลบเหลือ 5.10 จุด สถาบันเทกระจาด 2,022 ล้านบาท ต่างชาติซื้อ 438 ล้านบาท  กลับข้างตลาดบอนด์ เงินบาทอ่อนตีกลับมาแข็ง หลัง”เศรษฐา”ถูกถอดถอนจากตำแหน่งนายก ครม.พ้นทั้งคณะ คาดใช้เวลา 2 เดือนได้นายกฯคนใหม่ กระทบเศรษฐกิจ “ดิจิทัลวอลเล็ต”ส่อสะดุดหรือถึงขั้นแท้ง บล.ทิสโก้ เสี่ยงหุ้นลงโลว์เดิม 1270-1280 หรือโลว์ใหม่ แนะ 4 กลุ่มเด่น บล.หยวนต้า-ทรีนีตี้ชี้เสี่ยงหลุด 1270  

วันที่ 14 ส.ค. 2567 ศาลรัฐธรรมนูญ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรี  หลังเสนอชื่อนาย พิชิต ชื่นบาน  เป็น รมต.ไม่ถูกต้อง อ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ ขาดคุณสมบัติในแง่ความซื่อสัตย์สุจริต และสั่งให้คณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ  ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในช่วงบ่าย ดัชนีไหลลงลึกที่สุด -16.80 จุดที่บริเวณ 1,280.99 จุดก่อนฟื้นขึ้นมาปิดที่ 1,292.69 ร่วง 5.10 จุด -0.39%  เนื่องจาก สถาบันไทยขนหุ้นมาขายมากกว่า 2,022 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนอีก 3 กลุ่มเก็บของเล็กน้อย ต่างชาติซื้อ 438 ล้านบาท แต่ขายในตลาดตราสารหนี้มากถึง 8,537 ล้านบาท สวนทางบลจ.ซื้อบอนด์ 10,201 ล้านบาท กลุ่มประกันซื้อ 6,916 ล้านบาท

ทางด้านค่าเงินบาทก็ผันผวนจากอ่อนค่า 35.11 บาท/ดอลลาร์ ฟื้นมาแข็งปิดที่ 34.95 บาท

ตลาดหุ้นคาด “อนุทิน ชาญวีรกุล” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย (มท.) มีโอกาสรับตำแหน่งนายกฯคนใหม่  จึงมีแรงเก็งกำไรหุ้น STEC กระชากราคาขึ้นแรงและเร็ว จากระดับต่ำสุดที่ 8.05 บาท ขึ้นไปปิดที่  9 บาท พุ่งขึ้น 0.90 บาทหรือ +11.11% แต่มีแรงขายหุ้นค้าปลีก นำโดย CPALL ปิดที่ 55.25 บาทลดลง 2.75 บาทหรือ 4.74% กังวลผลกระทบต่อนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต

นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี  ในฐานะรองนายกฯ อันดับ 1 กล่าวว่า แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย ขณะนี้มีอยู่ 2 ชื่อ คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายชัยเกษม นิติศิริ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายเศรษฐา พ้นสภาพความเป็นรัฐมนตรีว่า ย่อมมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างแน่นอน ท่ามกลางเศรษฐกิจยังมีปัญหา สถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน อาจส่งผลกระทบเชิงลบให้ เศรษฐกิจชะลอตัวไประยะหนึ่งได้ และกระทบต่อโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลที่ยังค้างอยู่  เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งยังตอบอะไรไม่ได้ยังเดินหน้าตามแผนงานได้หรือไม่

ส่วนการเลือกนายกฯคนใหม่ คาดว่าไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ จะมีการบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระประชุมของสภาผู้แทนราษฎร

บล.ทิสโก้คาดว่าจะต้องเสียเวลาราว 2 เดือนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ อาจกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว และการจัดทำงบปี 2568 ล่าช้า นอกจากนี้ ยังมีความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐบาลใหม่ด้วยว่าจะสานต่อ รัฐบาลเดิม หรือยกเลิก หรือปรับเปลี่ยนใหม่

“หุ้นมีโอกาสลงทดสอบบริเวณโลว์เดิมที่ 1,270-1,280 และเสี่ยงทำโลว์ใหม่ หุ้นที่จะทนทานในสภาวะตลาดแบบนี้ คือ หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล (ชอบ BDMS, BH), กลุ่ม ICT (ADVANC, INTUCH) และหุ้นที่เกี่ยวข้องสินค้าอุปโภค-บริโภค (NEO, SABINA) รวมทั้งหุ้นที่เชิงรับคุณภาพดีและหุ้นปันผล (BEM, DMT, EGCO, MAJOR, MC)

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ระบุว่าหากเลือกนายกฯใหม่ได้ภายในเดือนส.ค. กระบวนการงบประมาณอาจล่าช้าประมาณ 1 เดือน เบื้องต้นมองว่าเศรษฐกิจปีนี้และปีหน้าจะขยายตัวได้ 2.3% และ 2.7% โอกาสในการทำ ดิจิทัลวอลเล็ตลดลง

ทั้งนี้หากไม่สามารถเลือกนายกฯใหม่ได้ภายในเดือนส.ค. กระบวนการงบประมาณอาจล่าช้าประมาณ 2-3 เดือนเป็นอย่างน้อย ซึ่งจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและนักลงทุน รวมถึงการเบิกจ่ายงบ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต มองว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 2.0% และ 2.5%ตามลำดับ ขณะที่โอกาสในการทำดิจิทัลวอลเล็ตน่าจะถูกยกเลิก

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดหุ้นลงหากรอบ 1,250-1,270 จุด (อิงสถิติการเมืองในอดีต) หุ้นกลุ่ม Global Play หรือ REIT จะเด่นกว่า Domestic Play เพราะเกิดสุญญากาศทางการเมือง