ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 408 จุด PPI ต่ำกว่าคาด

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดบวก ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 408 จุด ขานรับข้อมูลเงินเฟ้อชะลอลงกว่าคาด ติดตามรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ค.ในวันพุธ ด้านบอนด์ยีลด์ 10 ปี ลดลงเหลือ 3.8484% ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.71 ดอลลาร์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 13สิงหาคม 2567 ปิดที่ 39,765.64 จุด เพิ่มขึ้น 408.63 จุด หรือ +1.04% นักลงทุนขานรับข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอลงกว่าที่คาดไว้ ขณะที่รอการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนกรกฎาคมในวันพุธ

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,434.43 จุด เพิ่มขึ้น 90.04 จุด, +1.68%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,187.61 จุด เพิ่มขึ้น 407.00 จุด, +2.43%

กระทรวงแรงงานรายงาน ดัชนีราคาผู้ผลิต(Producer Price Index:PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่า 2.3% ที่นักวิเคราะห์คาด จากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบรายเดือนเพิ่มขึ้น 0.1% ต่ำกว่า 0.2% ที่นักวิเคราะห์คาด

ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่า 2.7% ที่นักวิเคราะห์คาด จากที่เพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนมิ.ย.

ข้อมูล PPI ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ตอกย้ำการคาดการณ์ของตลาดว่าจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในเร็วๆ นี้ และช่วยหนุนนักลงทุนก่อนที่จะมีรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค(Consumer Price Index: CPI) ในวันพุธ รวมไปถึงการรายงานข้อมูลยอดค้าปลีกที่เป็นตัวบ่งชี้สำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ของผู้บริโภคสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี

นักวิเคราะห์คาดเงินเฟ้อทั่วไป(headline CPI)จะเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือนต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากการลดลง 0.1% ในเดือนก่อนหน้า ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน(Core CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารแลพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปีจาก 3.3% ในเดือนมิถุนายน และเมื่อเทียบรายเดือนจะเพิ่มขึ้น 0.2% จากที่เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิถุนายน

พอล แอชเวิร์ธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ในอเมริกาเหนือจาก Capital Economics กล่าวว่า
PPIที่ เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน และ PPI พื้นฐานที่ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนกรกฎาคมนั้นไม่ค่อยดีเท่าที่ควร แต่ก็สอดคล้องกับPCE พื้นฐานที่เฟดให้ความสำคัญซึ่งเพิ่มขึ้นที่ต่ำกว่า 2% เมื่อเทียบรายปี

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลงเหลือ 3.8484% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีลดลงเหลือ 3.9398%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำการปรับขึ้น โดยหุ้นNvidia เพิ่มขึ้นราว 7%

หุ้น Home Depot บริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.2% หลังจากที่ร่วงลงในระหว่างวัน จากกาปรับลดคาดการณ์กำไรในปีงบการเงิน 2567

หุ้นสตาร์บัคส์ พุ่งขึ้น 24.5% หลังจากบริษัทประกาศแต่งตั้งนายไบรอัน นิคโคล ผู้บริหารของชิโปตเล เม็กซิกัน กริลล์ (Chipotle Mexican Grill) ให้เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอคนใหม่

หุ้น Chipotle (CMG) ลดลงมากกว่า 7%

ตลาดยุโรปปิดบวกที่ระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ จากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ซึ่งช่วยชดเชยการร่วงลงที่ถูกถ่วงด้วยผลประกอบการของ Tecan. บริษัทเทคโนโลยียาจากสวิตเซอร์แลนด์
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ และกลุ่มสาธารณูปโภค ปรับตัวขึ้น ขณะที่กลุ่มทรัพยากรพื้นฐานปรับตัวลง

นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนกันายนหลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด โดยเครื่องมือ FedWatch Tool ของ LSEG บ่งชี้ว่า ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงราว 1% ภายในสิ้นปีนี้

ขณะที่ผลสำรวจของรอยเตอร์บ่งชี้การคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงอีก 2 ครั้งในปีนี้ น้อยกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้

ข้อมูลเศรษฐกิจของยุโรปบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคมของสเปนลดมาที่ 2.9% จาก 3.6% ในเดือนมิถุนายน ขณะที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีตกลงเกินคาดในเดือนสิงหาคมโดยลดลงมากที่สุดในรอบ 2 ปี

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 501.66 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด, +0.52%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,235.23 จุด เพิ่มขึ้น 24.98 จุด, +0.30%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,275.87 จุด เพิ่มขึ้น 25.20 จุด, +0.35%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,812.05 จุด เพิ่มขึ้น 85.58 จุด, +0.48%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.14% ปิดที่ 78.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.61 ดอลลาร์ หรือ 1.96% ปิดที่ 80.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล