HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นเอเชีย” เช้านี้ส่วนใหญ่บวกหลังจากร่วงแรงสัปดาห์ก่อน “ตลาดหุ้นโตเกียว”ขึ้นแรง ดัชนี Nikkei พุ่งขึ้นกว่า 2% แรงหนุนกลุ่มเทคโนโลยีขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐเดือนก.ค.ในวันพุธนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด
ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวขึ้นแรง โดยดัชนี Nikkei พุ่งขึ้นกว่า 2% จากกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับขึ้นตามกลุ่มเดียวในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้
ในกลุ่ม Prime Market กลุ่มที่นำการปรับขึ้นคือ กลุ่มเหมืองแร่ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก
หุ้นใหญ่อย่าง Rakuten Group และ Trend Micro เพิ่มขึ้นกว่า 8% และ 6% ตามลำดับ
เวลา 9.00 น. ตามเวลาญี่ปุ่น เงินดอลลาร์อยู่ที่ 147.03-04 เยน จาก 147.18-28 เยนในตลาดนิวยอร์ก เวลา 17.00 น. วันจันทร์
รัฐสภาญี่ปุ่นกำลังเตรียมการที่ประชุมสมัยพิเศษในสัปดาห์หน้าเพื่อหารือเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อเดือนที่แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวของรัฐบาล
ดัชนีราคาผู้ผลิต (Corporate Goods Price Index:CGPI วัดการเปลี่ยนแปลงในราคาขายของสินค้าที่บริษัทญี่ปุ่นได้จัดซื้อ) ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 3% ในเดือนกรกฎาคมจากปีก่อนหน้า สอดคล้องกับการคาดการณ์และเพิ่มขึ้นเร็วเมื่อเทียบกับ 2.9% ในเดือนมิถุนายน
ณ เวลา 9.52 น. ในประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 35,785.55 จุด เพิ่มขึ้น 760.55 จุด , +2.17%
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น และฟื้นตัวกลับมาเต็มที่หลังจากที่ร่วงแรงในสัปดาห์ที่แล้ว นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นหลังกลับมาเปิดทำการในวันนี้
นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐเดือนกรกฎาคมที่จะเผยแพร่ในวันพุธนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินจากธนาคารกลางหสรัฐ(เฟด)
ขณะนี้ตลาดให้น้ำหนักเท่าๆ กันระหว่างการปรับลด 0.25% กับการปรับลด 0.50% ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนกันยายน แต่ทั้งปีนี้เทรดเดอร์ให้น้ำหนักว่าจะลดลง 1%
นอกจากนี้ตลาดอาจจะได้รับผลจากการรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนกรกฎาคมในวันนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวส่งผ่านไปยังการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core personal consumption :Core PCE) ที่เฟดให้ความสำคัญ
คริสตินา คลิฟตัน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Commonwealth Bank of Australia กล่าวว่า สัญญานอะไรก็ตามจาก PPI เกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อ่อนตัวอาจทำให้ตลาดยิ่งให้น้ำหนักมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเงินดอลลาร์
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิงคโปร์รายงานว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่สองขยายตัว 2.9% เมื่อเทียบรายปีว ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศล่วงหน้าที่เผยแพร่ในเดือนกรกฎาคม ขณะที่การเติบโตของ GDP ในปี 2024 น่าจะเห็นที่ 2% ถึง 3% เทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 1% ถึง 3%
ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 2,855.65 จุด ลดลง 2.55 จุด, -0.09%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 17,081.02 จุด ลดลง 30.63 จุด, -0.18%
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,610.16 จุด ลดลง 8.14 จุด, -0.31%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ 21,705.31 จุด ลดลง 67.95 จุด, -0.31%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 0.5 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ซื้อขายที่ 79.56 ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 0.5 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ซื้อขายที่ 81.8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล