HoonSmart.com >> หุ้นไม่ตื่น “ยุบก้าวไกล” SET +16 จุด ต่างชาติซื้อ +1,667 ล้านบาท ฟากกบข. เตือนสติ ! นักลงทุน อย่าตื่นตูมขายหุ้นในภาวะไม่ปกติ กลยุทธ์เลือกหุ้นรายกลุ่มที่ดี ไม่ให้ความสำคัญกับดัชนี
ตลาดหุ้นไทย วันที่ 7 ส.ค. 2567 ดัชนีฟื้นตัวตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยขึ้นไปสูงสุด 1,293.94 จุด +19.93 จุด และปิดที่ 1,290.55 จุด +16.54 จุด มูลค่าซื้อขาย 40,061.33 ล้านบาท
ต่างชาติซื้อสุทธิ +1,667 ล้านบาท , กองทุน -382 ล้านบาท , พอร์ตโบรกเกอร์ -491 ล้านบาท และรายย่อย -793 ล้านบาท
การตัดสินยุบพรรคก้าวไกล ไม่ส่งผลกับตลาดหุ้นไทยมากนัก ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว
บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย) มองว่า ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำตัดสินยุบพรรคก้าวไกล เป็นลบทางจิตวิทยาต่อบรรยากาศลงทุนโดยรวม แต่ผลกระทบน่าจะจำกัด เนื่องจากพรรคก้าวไกล ไม่ได้อยู่ในฝ่ายบริหาร จึงไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาครัฐ
.ทั้งนี้สมาชิกพรรคฯ มีเวลา 60 วันในการหาสังกัดใหม่ และคาดทางสมาชิกที่เหลือจะมีการประกาศชื่อพรรคใหม่เร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามจำนวนสมาชิกคงเหลือสุทธิยังต้องรอสรุป ซึ่งคาดว่าจะเหลือประมาณ 110-130 คน
นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า นักลงทุนจะต้องเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน ในภาวะตลาดมีสภาพคล่องซื้อขายไม่มาก ทำให้ราคาสินทรัพย์เหวี่ยงขึ้นลงรุนแรง ซึ่งไม่ได้สะท้อนสภาพตลาดปกติ เกิดจากนักลงทุนมีการตั้งขายที่จุด Stop lose มีนักลงทุนอีกกลุ่มกดราคาลงถึงเป้าหมาย เพื่อสร้างอกาสในการซื้อของราคาถูก เห็นได้จากราคาที่ดิ่งลงแรง ก็จะเด้งกลับแรงเช่นเดียวกัน
นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า นักลงทุนจะต้องเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน ในภาวะตลาดมีสภาพคล่องซื้อขายไม่มาก ทำให้ราคาสินทรัพย์เหวี่ยงขึ้นลงรุนแรง ซึ่งไม่ได้สะท้อนสภาพตลาดปกติ เกิดจากนักลงทุนมีการตั้งขายที่จุด Stop lose มีนักลงทุนอีกกลุ่มกดราคาลงถึงเป้าหมาย เพื่อสร้างอกาสในการซื้อของราคาถูก เห็นได้จากราคาที่ดิ่งลงแรง ก็จะเด้งกลับแรงเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศจะผันผวนต่อเนื่องถึงสิ้นปีนี้ จากตัวแปรสถานการณ์ตะวันออกกลาง การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐ และความไม่แน่นอนของการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด
“ตลาดที่เปราะบาง นักลงทุนจะต้องตั้งสติให้ดี ไม่ควรดูหรือให้ความสำคัญกับดัชนี เพราะไม่ได้สะท้อนภาพตลาดที่ปกติ กลยุทธ์จะต้องเลือกกลุ่มหุ้นที่มีการเติบโต และเลือกหุ้นเด่นในกลุ่ม เช่นเดียวกับกลยุทธ์การลงทุนของกบข. ที่มีการบาลานซ์พอร์ต ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้นไม่เกิน 40% และสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ 60% ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะจันทร์ทมิฬที่ผ่านมา คาดว่าแนวโน้มอัตราผลตบแทนในปีนี้ จะดีกว่าปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 1% เศษ ซึ่งในปีนี้บางขณะได้ผลตอบแทนถึง 4%” นายทรงพลกล่าว