LEO เปิดห้องเก็บของอัจฉริยะ มาร์จิ้น 45-50% ปี’68 เพิ่มอีก 2 สาขา

HoonSmart.com>>ลีโอ โกลบอลฯ ทุ่ม 75 ล้านบาท เปิด“LEO Self Storage”อัจฉริยะ พระราม 4 เก็บมาจิ้น 45-50% ชูจุดเด่นห้องเก็บไวน์คุมอุณภูมิ แสง เล็งเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา ภายใน’68 ดันแชร์รายได้แตะ 10% ของรายได้รวม จาก 1-2% ปรับเป้าปี’67 โต 15% จากเดิม 20%

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) กล่าวว่า ธุรกิจ self storage หรือ ธุรกิจห้องเก็บของให้เช่าในไทย ยังเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของเมือง การค้าออนไลน์ เทคโนโลยีทันสมัยต่างๆ ในยุคดิจิตัล โดยมีอัตราการเช่า 700-1,000 บาทต่อตารางเมตร มีมาร์จิ้น 45-50% เมื่อเทียบกับการให้เช่าพื้นที่คลังสินค้าแบบดั้งเดิมจะอยู่ที่ 250-350 บาทต่อตารางเมตร มีมาร์จิ้น 17-25% โดยสาขาพระราม 3 มีอัตราการการเช่าพื้นที่ 90% และสาขาไชน่าทาวน์ อยู่ที่ 60% โดยปีที่ 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้จากธุรกิจดังกล่าว 10 กว่าล้านบาท

ลิขสิทธิ์ระบบห้องเก็บของอัจฉริยะ

สำหรับ LEO Self Storage สาขาพระราม 4 จะเป็นสาขาแรก และเป็นบริษัทแรกในไทยที่พัฒนา ระบบ Smart Storage ห้องเช่าเก็บของอัจฉริยะของตัวเอง ที่ควบคุมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท โดยไม่ต้องพึ่งพาการเช่าระบบจากต่างชาติ มีการลดขนาดพื้นที่เช่าให้ตรงกับความต้องการของตลาดที่ส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณ 1 ตารางเมตรแล้วทำเป็น 2 ชั้น จากเดิมที่จะมีขนาดใหญ่ 2-20 ตารางเมตร

กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จะเป็นกลุ่มที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนี่ยม ธุรกิจค้าขายออนไลน์ ซึ่งมีสัดส่วน 30% ของลูกค้าทั้งหมด อีก 70% จะเป็นบริษัทรับจัดอีเว้นท์ เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก บริษัทรับซ่อมบ้าน บริษัท ห้างร้าน นักสะสม นักท่องเที่ยวแบ็คแพ็ค

“ตั้งเป้าหมายอัตราการเช่าพื้นที่ 60% ใน ปี 2568 เพราะเป็นย่านที่ได้เปรียบทางด้านการแข่งขัน มีอาคารสำนักงานมากกว่า 90 ตึก บ้านพักอาศัยกว่า 3 แสนยูนิต มีคอนโดมิเนี่ยมกว่า 100 แห่ง คนอยู่อาศัยกว่า 10,000 ยูนิต ใกล้ห้างสรรพสินค้า จากปัจจุบันอยู่ที่ 10% เพราะเพิ่งเปิดบริการ”นายเกตติวิทย์ กล่าว

จัดการสินค้าผ่านแอพฯ

นายเกตติวิทย์ กล่าวว่า ลูกค้าสามารถสมัครบริการ ทำ online booking และชำระเงินได้เอง มั่นใจในมาตรฐานด้านความปลอดภัยด้วยการ verify ตัวตนที่ self service kiosk  ควบคุมการเข้าออกพื้นที่ด้วยตัวเอง ผ่าน mobile application พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการเปิด-ปิดห้องเก็บของ สามารถทำธุรกรรมด้วยตนเองได้เอง 24 ชั่วโมง โดยที่ไม่ต้องรอติดต่อพนักงาน เพิ่มความสะดวกสบายและลดระยะเวลาในการติดต่อของลูกค้า ด้วยระบบ Smart Storage ที่ได้พัฒนาเป็นของตัวเองนี้ ทำให้เชื่อมั่นว่าการขยายสาขาในทุกรูปแบบธุรกิจ สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง
อีกหนึ่งบริการที่เป็นไฮไลท์ของ LEO Self Storage สาขาพระราม4 คือ LEO Wine Storage ห้องเก็บไวน์ที่ออกแบบตามมาตรฐานที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเก็บรักษาไวน์ พื้นที่ 60 ตารางเมตร ด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิ 15-17 องศา และความชื้น 60% พร้อมด้วยแสงไฟที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเก็บรักษารสชาดไวน์โดยเฉพาะ  เหมาะกับลูกค้าที่เป็นนักสะสมไวน์ ต้องการมีพื้นที่เก็บไวน์เพิ่มเติมที่ได้มาตรฐาน สะดวก

รวมถึงยังเหมาะสำหรับเป็นคลังสินค้าขนาดเล็กสำหรับบริษัทผู้นำเข้าไวน์ เพื่อบริการจัดส่งไวน์ให้กับร้านอาหาร ภัตตาคาร ไวน์บาร์และโรงแรมที่อยู่ในย่านสุขุมวิท ทองหล่อ และ เอกมัย

ทั้งนี้ จากความสำเร็จของสองสาขาแรกคือ พระราม 3 และสาขาไชน่าทาวน์ ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติเป็นอย่างดี จึงมั่นใจว่า LEO Self Storage สาขาพระราม 4 นี้จะมีผู้ใช้บริการกว่า 60% ภายในปี 2568

นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดให้บริการ “LEO Self Storage” เพิ่มอีก 2 สาขา ได้แก่สาขาที่ 4 และสาขาที่ 5 ภายในปี 2568 และจะขยายเฟส 2 ที่สาขาไชน่าทาวน์เพื่อใช้ในการเก็บไวน์ ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ว่าจะใช้งบเท่าไหร่

ส่วนการเปิดสาขาใหม่ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนสาขาละ 70-75 ล้านบาท และรายได้น่าจะเข้ามาช่วงปลายๆ ปี 2568 ก็คาดว่ารายได้จากธุรกิจ Self Storage หรือ ห้องเก็บของให้เช่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 10% ในปี 2568 ของรายได้รวม จากปัจจุบันอยู่ที่ 1-2% โดยยังคงเป็นโลเคชั่นในเขตกรุงเทพมหานครเป็นหลัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มองเห็นความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอีกเป็นจำนวนมาก

“โดยจะเป็นรูปแบบของการร่วมทุนกับพันธมิตรที่เขามีพื้นที่อยู่ใน strategic location แต่เปิดเผยไม่ได้อยู่ระหว่างการเจรจา”นายเกตติวิทย์ กล่าว

นายเกตติวิทย์ กล่าวว่า รูปแบบการทำธุรกิจห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าในอนาคต จะไปใน 3 แนวทาง คือ ลงทุนเอง ร่วมลงทุน และรับจ้างบริหาร จะใช้รูปแบบ “Smart Storage” เพราะต้นทุนต่ำ เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ควบคุมเกือบทั้งหมด ทำให้คืนทุนได้เร็ว และตอบแทนผู้ถือหุ้นได้เร็ว มีการเติบโตที่ยั่งยืน

ปัจจุบัน ธุรกิจ Self Storage มีผู้เล่นประมาณ 10 ราย มีที่เป็นอินเตอร์เนชั่นแนล 1 ราย แต่ไม่มีตัวเลขมูลค่าของธุรกิจนี้ และเพิ่งจะมาบูมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจากการที่คนนิยมเข้ามาอยู่ในเมืองมากขึ้น จึงต้องการใช้พื้นที่เก็บของเพิ่ม

ปี’67 ลดเป้ารายได้โต 15% จาก 20%

สำหรับปี 2567 บริษัทปรับลดเป้ารายได้เหลือ 15% จากเดิม 20% เพราะไตรมาส 2 ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่าระวางเรือเพิ่มสูงขึ้น 8-9 เท่าภายใน 1 เดือน และการส่งออกไปจีนลดลง แต่คาดว่าจะดีขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 เพราะปกติจีนจะมีการสั่งสินค้าไปสต็อคเพื่อรอเทศกาลใหญ่ๆ ช่วงปลายปี ซึ่งเดือน มิ.ย-ต.ค.ถือเป็นช่วงพีคของทุกปี และคาดว่าค่าระวางเรือจะลดลง

เพิ่มรายได้ธุรกิจร่วมพัฒนา 30-35%

นายเกตติวิทย์ กล่าวว่า ใน 2-3 ปีข้างหน้า บริษัทฯมีแผนที่จะเพิ่มรายได้จากธุรกิจคลังสินค้า และธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือทางอากาศ ที่ร่วมกันพัฒนากับพันธมิตรเป็น 30-35% และรายได้จากธุรกิจที่พัฒนาด้วยตัวเองอยู่ที่ประมาณ 65-75% จากปัจจุบันอยู่ที่ 90%

“เราเริ่มที่จะพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ เป็น 10 ธุรกิจ ร่วมกับพาร์ทเนอร์ในช่วง 2 ปี เน้นจับมือกับผู้เชี่ยวชาญและมีจุดแข็งทางธุรกิจในแต่ละด้าน เช่น การทำธุกิจขนส่งสินค้าทางรถไฟ ทำกับบาวไทยที่มีคอนเน็คชั่นกับทางจีน จับมือกับแอ๊ดเวนตีส กรุ๊ป ตั้ง แอ๊ดแวนตีส ลีโอ ให้บริการคลังสินค้าครบวงจร เพื่อขยายฐานลูกค้า”นายเกตติวิทย์ กล่าว