บล.กสิกรฯชี้เป้าหุ้น1,545 จุด สัปดาห์หน้าแกว่งตามการเมือง

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (3-7 ก.ค.) ดัชนีแกว่งในกรอบ 1,460-1,545 จุด รอตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ฟันด์โฟลว์ การเมืองไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ด้านค่าเงินบาทธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 35.00-35.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (3-7 ก.ค.2566) ว่า ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,480 และ 1,460 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,520 และ 1,545 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์การเมืองและการประชุมของกลุ่มโอเปก (5-6 ก.ค.)

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนมิ.ย. ตลอดจนบันทึกการประชุมเฟด ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนมิ.ย. ของญี่ปุ่น จีนและยูโรโซน

ในวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,503.10 จุด ลดลง 0.16% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 46,695.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.37%  ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.74% มาปิดที่ระดับ 459.78 จุด

ดัชนีหุ้นแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี 5 เดือนที่ 1,461.61 จุด ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาปิดเหนือ 1,500 จุดช่วงท้ายสัปดาห์ ทั้งนี้หุ้นไทยร่วงลงแรงช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมือง ประกอบกับตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาบริษัทผู้ผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มอื่นๆ ขณะที่หุ้นกลุ่มแบงก์เผชิญแรงกดดันจากความกังวลประเด็นเรื่องหนี้เสีย อย่างไรก็ดีหุ้นทยอยฟื้นตัวกลับมาบางส่วนในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ หลังนักลงทุนคลายความกังวลต่อประเด็นการเมือง (แม้จะยังต้องติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป) รวมถึงมีปัจจัยหนุนจากการทำ Window Dressing ช่วงสิ้นไตรมาส

ส่วนค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (3-7 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 35.00-35.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ

เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 7 เดือนที่ 35.74 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์

เงินบาทปรับตัวในกรอบแคบๆ ก่อนทยอยอ่อนค่าลงตามทิศทางเงินหยวน ซึ่งถูกกดดันจากความกังวลต่อแนวโน้มที่เปราะบางของเศรษฐกิจจีน ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (อาทิ จีดีพีไตรมาส 1/66 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์) ที่ดีกว่าที่คาด และถ้อยแถลงของประธานเฟดที่ย้ำถึงโอกาสของการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ในเดือนก.ค.

เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่าจนถึงในช่วงปลายสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลต่อประเด็นทางการเมือง ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงท้ายสัปดาห์ตามแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชันในช่วงปิดสิ้นเดือน และสิ้นไตรมาส

ในวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.44 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 35.22 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (23 มิ.ย.)

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 26-30 มิ.ย. 2566 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,214 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 2,694 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 1,424 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 1,270 ล้านบาท)