HoonSmart.com>>ตราบใดที่ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ยังไม่ล้มละลาย นักลงทุนก็ยังคงมีความหวัง กล้า “BET-พนัน” ซื้อหุ้นในราคา 0.02 บาท/หุ้น เก็บไว้ลุ้น เพราะใช้เงินเพียง 2 หมื่นบาท สำหรับการเป็นเจ้าของถึง 1 ล้านหุ้น
ทำให้ราคาหุ้นในวันที่ 29 มิ.ย.2566 ยืนปิดคงที่ที่ 0.02 บาท มีการซื้อขายจำนวน 471 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 9.27 ล้านบาท เหลือเวลาเทรดเพียง 1 วัน (30 มิ.ย.) ก่อนจะถูกพักการซื้อขายยาว เพื่อแก้ไขวิกฤตหนี้มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 4,403 ล้านบาท
นักลงทุนยังคงมีความหวังว่า STARK จะกลับมาผงาดอีกครั้ง โดยเชื่อว่า ป๊า”ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ” น่าจะใช้เงินส่วนตัว กระโดดเข้ามาช่วยอุ้มลูกชาย “วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ”
ที่สำคัญ บริษัท สตาร์คฯยังมีทรัพย์สินดีๆ เชื่อว่าหากประกาศขายเมื่อไร จะมีผู้เสนอซื้อเข้ามาจำนวนมาก เช่น หุ้นบริษัท “อดิสรสงขลา” ให้บริการด้านทรัพยากรบุคคล หรือตัดขายธุรกิจที่เวียดนาม น่าจะช่วยกอบกู้กิจการกลับมาได้ โดยที่เจ้าหนี้จะต้องยืดหนี้และสนับสนุนการปรับโครงสร้างทุนอีกทางหนึ่ง
ซึ่งสอดคล้องกับแผนของบริษัท ในการกำหนดวันดีเดย์ 19 ก.ค.2566 เลือก 4 แนวทางแก้ไขส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ คือ 1. เจรจากับเจ้าหนี้ที่สำคัญทั้งหมด เพื่อให้ระงับการใช้สิทธิเรียกร้องให้ชำระหนี้โดยพลัน สนับสนุนแผนการปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างหนี้ ให้ความช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อวางแผนการบริหารการชำระหนี้ และวางแผนธุรกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว 2. จำหน่ายทรัพย์สิน (เช่น หุ้นในบริษัทย่อยที่ไม่ได้ดำเนินธุรกิจหลักของบริษัท สิทธิเรียกร้องในสัญญาที่สำคัญ) และปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณธุรกิจ เพื่อเพิ่มรายได้และลดต้นทุนคงที่และค่าใช้จ่าย
3. เพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม หรือหานักลงทุนรายใหม่ เพื่อเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท 4. ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายเพื่อดำเนินการฟื้นฟูกิจการเพื่อปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างหนี้ รวมถึงให้สิทธิการแปลงหนี้เป็นทุนแก่เจ้าหนี้ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ
หวังว่า สตาร์คฯ ผู้ประกอบกิจการรายใหญ่ในการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล จะหาทางออกไม่ยาก หากตั้งใจแก้ไขจริงจัง ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือในการสะส่างวิกฤตครั้งนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ จะปล่อยให้ล้มละลายไปก็น่าเสียดาย!!!