HoonSmart.com>> บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนกรุงศรีพันธบัตรรัฐบาลไทยเพื่อความยั่งยืน (KFGBTHAIESG-A)รับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากแนวโน้มดอกเบี้ย พร้อมเติบโตไปกับตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้ใช้สิทธิลดภาษีที่รับความเสี่ยงได้น้อย ด้วยตราสารภาครัฐ ESG เปิดขายครั้งแรก 1 – 6 ส.ค.นี้
นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรรัฐบาลไทยเพื่อความยั่งยืน (KFGBTHAIESG-A) มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน ที่มีความน่าเชื่อถือสูงชี้เป็นจังหวะที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยในตลาดปัจจุบัน
“บลจ.กรุงศรี มองว่าปัจจุบันเป็นช่วงที่ดีสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐไทยที่มีความน่าเชื่อถือและมีความเสี่ยงต่ำ ช่วยในการกระจายความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้น และยังได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 2.5% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 10 ปี และคาดว่าได้สิ้นสุดวัฎจักรขาขึ้นของดอกเบี้ยในรอบนี้แล้ว จึงมีความเสี่ยงขาลงอยู่ในระดับที่จำกัด โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยมีแนวโน้มทรงตัวหรือปรับลดลงได้ในปีนี้ ถือเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยค่อนข้างยาว และในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงก็จะได้รับประโยชน์จากราคาที่มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย”นางสุภาพร กล่าว
ด้านภาพรวมของการออกตราสารหนี้กลุ่ม ESG ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และมีประวัติการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดตราสารหนี้ทั่วไป โดยในปี 2566 ดัชนี Bloomberg’s Global Aggregate Green, Social and Sustainability ซึ่งเป็นดัชนีที่เป็นตัวแทนของตราสารหนี้ในกลุ่มความยั่งยืน สามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 9.94% ขณะที่ดัชนี Bloomberg’s Global Aggregate Total Return Index ซึ่งเป็นดัชนีตัวแทนของตลาดตราสารหนี้โดยรวม สามารถสร้างผลตอบแทนได้เพียง 5.72%” (ที่มา : บทความ Green bonds reached new heights in 2023 จัดทำโดย Bloomberg ณ 8 ก.พ. 67 /ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)
สำหรับประเทศไทยมีการออกตราสารหนี้กลุ่ม ESG มากเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน มีมูลค่ารวมกว่า 12,169 ล้านเหรียญสหรัฐ (ที่มา : ThaiBMA ณ 17 ก.ค. 66) และเมื่อเทียบสัดส่วนตราสารหนี้ ESG ของไทยกับยุโรปแล้ว สัดส่วนการเติบโตในไทยยังมีได้อีกมาก เห็นได้จากการที่ประเทศไทยให้ความสำคัญกับ ESG เพิ่มมากขึ้น นักลงทุนสถาบันส่วนใหญ่มีการจัดสรรเงินลงทุนในองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ ESG และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านภาครัฐและภาคธุรกิจก็ให้ความสำคัญกับการลงทุนตามกรอบ ESG มากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นการนำปัจจัยด้าน ESG มาประกอบการตัดสินใจในการลงทุนจึงมีส่วนช่วยในการสร้างผลตอบแทนที่ดี และลดความเสี่ยงของการลงทุนได้
“บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่ากองทุน KFGBTHAIESG-A เป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีแต่รับความเสี่ยงได้น้อย หรือต้องการลดความเสี่ยงให้พอร์ตการลงทุน พร้อมเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืน ภายใต้การบริหารของทีมผู้จัดการกองทุนตราสารหนี้ เจ้าของรางวัลด้านตราสารหนี้จากหลากหลายสถาบันชั้นนำ เช่น รางวัลกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพยอดเยี่ยม ปี 2023 ประเภทตราสารหนี้ จากมอร์นิ่งสตาร์ รางวัล Best of the Best Awards 2023 และ Best Bond Manager 2023 (ได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 4) จาก Asia Asset Management Magazine (HK) และรางวัล Fixed Income House of the Year 2024 จาก Fund Selector Asia (HK) เป็นต้น” นางสุภาพร กล่าว
(ที่มา: บลจ.กรุงศรี ณ 25 ก.ค. 67 ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / การจัดอันดับดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแต่อย่างใด)