บล.กรุงศรีมองกม.คุมราคาน้ำมันอึมครึม กดดันโรงกลั่น-สถานีบริการ

HoonSmart.com>> บล.กรุงศรีอยุธยาแนะหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มโรงกลั่น และสถานีบริการน้ำมัน เจอแรงกดดัน (overhang) จากความไม่ชัดเจนของกฏหมายใหม่ คุมราคาน้ำมันที่คาดว่าจะคืบหน้าในไตรมาสที่ 4/67 เชียร์  SPRC (ราคาเป้าหมาย 11 บาท ) เป็น top pick

บล.กรุงศรีอยุธยา มองความไม่ชัดเจนของกฏหมายใหม่ คุมราคาน้ำมันที่คาดว่าจะคืบหน้าในไตรมาสที่ 4/2567 จะคอยกดดัน (overhang) กลุ่มโรงกลั่น จากตลาดอาจกังวลต่อความสามารถทำกำไรในระยะยาว หากสุดท้ายราคาน้ำมันมีการควบคุม/แทรกแซง การปรับขึ้นราคาจากภาครัฐ ซึ่งในกรณี worst case  มองต้องหลีกเลี่ยงการลงทุนทั้งโรงกลั่นและสถานีบริการน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม มองด้วยเป้านโยบายที่จะคงการค้าน้ำมันเสรีของรัฐและต้องบริหารเสถียรภาพพลังงานภายในประเทศไม่ให้ขาดแคลน supply ภาครัฐจะเลือกเครื่องมือคุมราคาน้ำมันผ่านภาษีฯ และกองทุนน้ำมัน เพื่อไม่ให้กระทบอย่างไม่เป็นธรรมต่อความสามารถในการแข่งขันและอัตรากำไรของเอกชน

“เราประเมิน sensitivity ผลกระทบ คงมุมมอง Neutral ต่อกลุ่มพลังงานฯ และคง SPRC (ราคาเป้าหมาย 11 บาท ) เป็น top pick ”

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างยกร่างกฏหมายใหม่ เพื่อใช้แทน พ.ร.บ. กองทุนน้ำมัน มีวัตถุประสงค์ เพื่อบริหารจัดการการค้าน้ำมันเชื้อเพลิงให้เกิดความถูกต้องเป็นธรรมประชาชนตรวจสอบได้, ป้องกันการค้ากำไรเกินควร, ราคาน้ำมันไม่ผัน
ผวน, การเก็บภาษีไม่ซ้ำซ้อน, และลดภาระกองทุนน้ำมันฯ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบร่างของคณะกรรมการกฤษฏีกา เมื่อเสร็จสิ้นจะขอความเห็นภาคเอกชนต่อไป ตั้งเป้าให้มีผลบังคับใช้ได้ภายในปี 2567

หลักการของร่างกฏหมาย จะไม่กระทบการค้าน้ำมันเสรี แต่จะต้องมีกรอบที่กำหนดควบคุมได้ เช่น เพดานการเก็บภาษีสรรพสามิต, การพิสูจน์ต้นทุนการผลิตของโรงกลั่น และผู้ค้า(หากพิสูจน์และขาดทุนจะได้รับเงินชดเชย หากพิสูจน์ไม่ได้จะต้องใช้ราคากลางของภาครัฐ ซึ่งยัง
ไม่เปิดเผยรายละเอียดของราคาอ้างอิง)

“เรามองความไม่ชัดเจนของประเด็นกฏหมายคุมราคาน้ำมันในสภาวะที่ปัจจัยบวกของกลุ่มยังไม่แน่นอน อาจกดดันราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นและสถานีบริการน้ำมันในครึ่งปีหลัง  ราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่น (BCP -9%, BSRC -13%, SPRC -12%, TOP-6%) ปรับลด 6-13% ในช่วง
สัปดาห์ก่อน สวนทางค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวในไตรมาสที่ 3 ที่ 13% q-q คาดถูกกดดันจากหลายปัจจัย ซึ่งปัจจัยหลักคาดอาจมาจากกังวลกฏหมายฯ ที่หากสุดท้ายทำให้ผู้ประกอบการปรับราคาขายได้ช้าจากภาครัฐคุมราคาน้ำมัน อาจกระทบต่อค่าการกลั่นและอัตรากำไร”

ประเมิน sensitivity ทุกๆค่าการกลั่นที่ลดลง 0.5 ดอลลาร์/บาร์เรล กระทบกำไรกลุ่มโรงกลั่น -15 ถึง 22% จาก 1. ความกังวลการคุมราคาน้ำมันกระทบอัตรากำไรของกลุ่มโรงกลั่น ( ผลกระทบต่อกลุ่มสถานีบริการน้ำมันคาดรับรู้ไปบ้างแล้ว โดยราคาหุ้น OR -19% และ PTG -10% YTDสวนทางแนวโน้มกำไรครึ่งปีแรกที่ +6% y-y, 8% h-h และ +71% y-y, +23% h-h ตามล าดับ)

2. ความกังวลขาดทุนสต๊อกในไตรมาสที่ 3  หลังราคาน้ำมันดิบที่ -3% w-w จากความกังวล supplyOPEC+, ความต้องการน้ำมันโลกชะลอจากเศรษฐกิจสหรัฐ และจีนที่มีความไม่แน่นอน และ การเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอล-ฮามาส

3.แนวโน้มกำไรกลุ่มในไตรมาสที่ 2 ที่ -33-97%q-q ตามค่าการกลั่นที่ปรับฐานไป หลัง supply ใหม่ออกมามาก 1.6 mbd ส่งให้ supply ตึงตัวน้อยลง รวมถึงความกังวลผลกระทบจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ (สงครามฯ และความขัดแย้งทางการค้า)

เรามองราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นปรับลด สะท้อนว่าตลาดมองไปที่ worst case รัฐแทรกแซงราคาน้ำมันจำกัดกำไรกลุ่มในระยะยาวแล้ว ซึ่งอาจรุนแรงเกินไปหากอิงนโยบายค้าน้ำมันเสรีที่ใหสิทธิ์เอกชนในการแข่งขันอย่างเป็นธรรม คาดสุดท้ายรัฐอาจมุ่งเน้นไปที่การคุมราคาน้ำมันผ่านเครื่องมือของรัฐเองอย่าง ภาษีฯ และ เงินกองทุนน้ำมันฯ

ทั้งนี้มองสุดท้ายเอกชน (โรงกลั่น และ สภาอุตสาหกรรม) มีแนวโน้มที่จะชี้แจงเหตุผลหลักการอ้างอิงราคาขายน้ำมันจากตลาดสิงคโปร์ (Mean of Platts Singapore/ MOPS) ที่สะท้อนสภาวะการแข่งขันของตลาด commodity ในภูมิภาคได้ โดยตลาดสิงคโปร์เป็นตลาดที่มีผู้ค้าในภูมิภาคหลายรายเข้าร่วมและมีปริมาณซื้อขายน้ำมันมากสุดในเอเชีย ทำให้แทรกแซงราคาได้ยาก

นอกจากนี้มองการรวมต้นทุนค่าขนส่ง, ประกันฯ, การปรับคุณภาพน้ำมัน และอื่นๆในการนำเข้า หรือ import parity เพื่อสะท้อนต้นทุนของเอกชนที่ต้องมีการนำเข้าน้ำมันดิบมาจากตะวันออกกลางและตะวันออกไกล ซึ่งต้นทุนดังกล่าวไม่ได้สะท้อนอยู่ใน MOPS เอกชนมีแนวโน้มจะมีเอกสารหลักฐานในการชี้แจงรัฐ

“คงมุมมอง Neutral ต่อกลุ่มพลังงาน คง top pick เป็น SPRC (11.0) แต่ระยะสั้นอาจมี overhang จาก regulatory risk โดยกลุ่มโรง
กลั่น อาจมี overhang ในช่วงที่กฏหมายคุมราคาน้ำมันยังไม่ชัดเจนส่งให้ตลาดกังวลต่อผลตอบแทนธุรกิจในระยะยาว กลบปัจจัยบวกกำไรที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในไตรมาส 3 เทียบกับไตรมาส 2 ตามค่าการกลั่นที่มีแรงหนุนจาก U.S. driving season (คงมุมมอง SPRC ฟื้นเด่นกว่ากลุ่มจากการกลับมาของSPM ลดต้นทุนขนส่ง 1.5 ดอลลาร์/บาร์เรล )

บล.กรุงศรีแนะนำกลุ่มโรงกลั่น-สถานีบริการน้ำมัน

หุ้น      คำแนะนำ     ราคาเป้าหมายปีนี้ (บาท)

PTT    Neutral             38.50
PTTEP Trading Buy          178.50
TOP       Buy                    78.00
BCP         Buy                   55.00
BSRC U.R. (Buy)         n.a. (11.5)
SPRC        Buy                11.00
IRPC          Neutral             1.80
SCC     Trading Buy            290 (เป้าปี 68)
PTTGC  Neutral                  32.00
IVL        Reduce              19.50
OR           Neutral             20.00
PTG          Trading Buy     10.00