ดาวโจนส์ปิดลบ 49 จุด จับตาเฟดประชุม

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 49 จุด สวนทางดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) การรายงานผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ โดยเฉพาะจากกลุ่มเทคโนโลยี ทำให้ยังไม่กลับเข้าไปซื้อคืนหลังร่วงลงในสัปดาห์ก่อน ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับตัวลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 29กรกฎาคม 2567 ปิดที่ 40,539.93 จุด ลดลง 49.41 จุด หรือ -0.12% ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น ท่ามกลางความเครียดของนักลงทุนที่จับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และการรายงานผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ โดยเฉพาะจากกลุ่มเทคโนโลยี ทำให้ยังไม่กลับเข้าไปซื้อคืนหลังร่วงลงในสัปดาห์ก่อน

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,463.54 จุด เพิ่มขึ้น 4.44 จุด, +0.08%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,370.20 จุด เพิ่มขึ้น 12.32 จุด, +0.07%

On Semiconductor ขยับขึ้น 11.5% หลังจากรายงานกำไรและรายได้ดีเกินคาด ทำให้หุ้นปรับขึ้นดีที่สุด เทสลา เพิ่มขึ้น 5.6% หลังจากมอร์แกน สแตนเลย์ให้เป็น top pick

บริษัทที่จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ได้แก่ ไมโครซอฟต์, เมตา แพลตฟอร์ม, แอปเปิล และอเมซอน ซึ่งจะบ่งชี้ว่าหุ้นเทคโนโลยีสามารถฟื้นตัวจากการลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้หรือไม่

นอกจากนี้ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่รายอื่นที่จะรายงานผลการดำเนินในสัปดาห์นี้เช่นกัน คือ Advanced Micro Devices, Merck & Company Inc , Procter & Gamble และ Intel Corporation

อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อตลาดคือการประชุมของเฟด ซึ่งจะเผยแพร่แถลงการณ์ในวันพุธ(31 ก.ค.) ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดจะยังไม่ลดอัตราดอกเบี้ยจาก 5.25%- 5.50% ในสัปดาห์นี้ แต่นักลงทุนรอการส่งสัญญานเพื่อประเมินว่าเฟดมีความพร้อมที่จะปรับลดดอกเบี้ยลงในเดือนกันยายน หรือไม่

นักลงทุนยังรอการรายงานข้อมูการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกรกฎาคมในวันศุกร์ (2 ส.ค.)

หุ้นแมคโดนัลด์ (McDonald’s) เพิ่มขึ้น 3.7% แม้บริษัทรายงานผลการดำเนินงานต่ำกว่าคาด เนื่องจากผู้บริโภคมองไปที่ข้อเสนอที่คุ้มค่ามากกว่าเมนูที่ราคาสูง

ตลาดยุโรปปิดลบจากผลประกอบการที่อ่อนแอ ขณะที่นักลงทุนเกาะติดการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายประเทศ

กลุ่มสังหาริมทรัพย์และเฮลธ์แคร์ปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด ขณะที่หุ้นรถยนต์และการเดินทางลดลงมากที่สุด

สำหรับหุ้นรายตัว Royal Philips ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ เนเธอร์แลนด์เพิ่มขึ้นมากถึง 15% หลังจากที่คำสั่งซื้อของเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบสองปี และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับข้อผิดพลาดของเครื่องป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับได้ลดลง

หุ้น Heineken บริษัทเบียร์ ทรุดตัวลงมากถึง 10% เนื่องจากตั้งสำรองครั้งเดียว 874 ล้านยูโรเพื่อชดเชยมูลค่าหุ้นที่ถือในผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดในจีนที่ลดลง
ความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนกดดันผลการดำเนินงานของบริษัทยุโรป

นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางใน 3 ประเทศหลัก ทั้งธนาคารกลางญี่ปุ่น ธนาคารกลางสหรัฐ และธนาคารกลางอังกฤษในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ย
รวมไปถึงการรายงานเงินเฟ้อยูโรโซนที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.5% เป็นเดือนที่สอง ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ธนาคารกลางยุโรป(ECB) ใช้พิจารณาว่าจะลดดอกเบี้ยลงในเดือนกันยายนหรือไม่

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 511.79 จุด ลดลง 1.04 จุด, -0.20%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,292.35 จุด เพิ่มขึ้น 6.64 จุด, +0.08%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,443.84 จุด ลดลง 73.84 จุด, -0.98%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,320.67 จุด ลดลง 96.88 จุด, -0.53%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 1.75% ปิดที่ 75.81 และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 1.66% ปิดที่ 79.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล