ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 654 จุด PCE แนวโน้มดี ย้ำความหวังเฟดลดดอกเบี้ย ก.ย.

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 ดัชนีหลักปิดบวก ดาวโจนส์พุ่ง 654 จุด นักลงทุนกลับเข้าตลาดมองทางบวกหลังข้อมูลเงินเฟ้อแนวโน้มดี ตอกย้ำการคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับตัวลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 26กรกฎาคม 2567 ปิดที่ 40,589.34 จุด พุ่งขึ้น 654.27 จุด หรือ +1.64% นักลงทุนกลับเข้าตลาดด้วยมุมมองทางบวกหลังจากข้อมูลเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มดี ตอกย้ำการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
      
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,459.10 จุด เพิ่มขึ้น 59.88 จุด, +1.11%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,357.88 จุด เพิ่มขึ้น 176.16 จุด, +1.03%
     
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 0.75% ดัชนี S&P500 ลดลง 0.82% และ ดัชนี Nasdaq ลดลง 2.08%
      
กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาด จาก 2.6% ในเดือนพฤษภาคม ส่วนเมื่อเทียบรายเดือน เพิ่มขึ้น 0.1% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาด จาก 0.0% หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเดือนพฤษภาคม
      
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน และ เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาด จาก 2.6% ในเดือนพฤษภาคมและเมื่อเทียบรายเดือน เพิ่มขึ้น 0.2% สอดคล้องที่นักวิเคราะห์คาด จาก 0.1% ในเดือนพฤษภาคม
      
Core PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ แม้เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบรายเดือน แต่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบสามปี
      
ข้อมูล PCE ที่มีแนวโน้มที่ดี จะเป็นพื้นฐานสำหรับการประชุมนโยบายของเฟดในสัปดาห์หน้า ซึ่งตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม แต่หลายคนคาดว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
      
ล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายน หลังการรายงานข้อมูล PCE
      
แซม สโตวาล จาก CFRA Research กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นในวันศุกร์มาจากการทั้งมุมมองที่ว่าตลาดมีการขายมากเกินไป (oversold), รายงาน GDP ที่แข็งแกร่งเกินคาดในวันพฤหัสบดี และมุมมองที่ว่าเฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ
      
“รายงาน PCE ที่อ่อนตัว ช่วยให้ตลาดฟื้นได้ รวมทั้งการสลับกลุ่มลงทุนยังต่อเนื่องและยังขยายวง”
      
นักลงทุนยังคงให้ความสนใจไปที่หุ้นวัฏจักรและหุ้นขนาดเล็ก โดยดัชนี Russell 2000 เพิ่มขึ้น 1.67% หุ้นอุตสาหกรรมและวัสดุเพิ่มขึ้น
      
หุ้น 3M พุ่งสูงขึ้น 23% นำการปรับขึ้นของภาคอุตสาหกรรม และเป็นการปรับขึ้นรายวันที่ดีที่สุดนับตั้งแต่อย่างน้อยปี 1972
      
นอกจากนี้การคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคยังลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า สามปีครึ่งตามการสำรวจผู้บริโภคครั้งล่าสุดของมหาวิทยาลัยมิชิแกนที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ แม้ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมเดือนกรกฎาคมปรับตัวลงมาอยู่ที่ 66.4 จาก 68.2 ในเดือนมิถุนายนและสูงกว่า 66 ที่นักวิเคราะห์คาด
      
โดยผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 2.9% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 และลดลงจากระดับ 3.0% ในเดือนที่แล้ว และคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 3.0% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ไม่เปลี่ยนแปลงจากคาดการณ์ในเดือนที่แล้ว
      
ในสัปดาห์หน้านอกจากการประชุมของเฟดแล้ว นักลงทุนยังจับตาการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญได้แก่ การจ้างงานเดือนกรกฎาคม และการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ทั้ง แอปเปิ้ล แอมะซอน ไมโครซอฟต์ เมตาแพลตฟอร์มส รวมไปถึงบริษัทอุตสาหกรรมข้ามชาติทั้ง แม็คโดนัลด์ สตาร์บัค โบอิ้ง และเอ็กซอน โมบิล
      
      
ตลาดยุโรปปิดบวก โดยได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่สดใสของหลายกลุ่ม รวมถึงสินค้าหรู ขณะที่ตลาดโลกยังคงทรงตัวหลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น
      
หุ้น EssilorLuxottica ผู้ผลิตแว่นตา Ray-Ban พุ่ง 7.4% หลังซีอีโอเปิดเผยว่า เมต้า บอกว่าอาจเข้าถือหุ้นในบริษัท หุ้น Hermes เพิ่มขึ้น 3.4% หลังยอดขายในไตรมาสสองสูงกว่าคาดเล็กน้อย
      
หุ้นบริษัทสินค้าหรูที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป 10 แห่ง เพิ่มขึ้น 2.9% นับเป็นการเพิ่มขึ้นภายในวันเดียวใหญ่ที่สุดในรอบ 6 เดือน
      
หุ้นก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างเป็นกลุ่มที่นำการปรับขึ้น โดยบวก 1.7% หุ้น Vinci ของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 3.5% หลังจากที่ผู้ให้บริการไฮเวย์ประกาศว่ารายได้และกำไรในครึ่งปีแรกเติบโต
      
ในขณะเดียวกัน ตลาดโลกยังคงมีความหวังหลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นปานกลางในเดือนมิถุนายน ซึ่งตอกย้ำสภาพแวดล้อมเงินเฟ้อที่ดีขึ้น อาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
      
จากข้อมูลดังกล่าว มีความคาดหวังว่าเฟดอาจใช้การประชุมในสัปดาห์หน้าเพื่อส่งสัญญาณว่าจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
      
ในรอบสัปดาห์นี้ หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวลงมากที่สุด ขณะที่กลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวขึ้นมากที่สุดราว 2.2%.
      
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 512.83 จุด เพิ่มขึ้น 4.20 จุด, +0.83%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,285.71 จุด เพิ่มขึ้น 99.36 จุด , +1.21% 
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,517.68 จุด เพิ่มขึ้น 90.66 จุด, +1.22%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,417.55 จุด เพิ่มขึ้น 118.83 จุด, +0.65%
      
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 77.16 และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 81.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล