ดาวโจนส์ปิดลบ 57 จุด จับตาผลดำเนินงานบริษัทเทคโนโลยีใหญ่

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 ดัชนีหลักปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 57 จุด นักลงทุนจับตาผลการดำเนินงานบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่แจ้งหลังปิดตลาด “Alphabet” กำไรดีกว่าคาด ส่วน Tesla กำไรลดลง ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” WTI ลดลง 1.44 ดอลลาร์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 23กรกฎาคม 2567 ปิดที่ 40,358.09 จุด ลดลง 57.35 จุด หรือ -0.14% จากนักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการ โดยเฉพาะ Alphabet และ Tesla หลังปิดการซื้อขาย ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่ตลาดจะได้เห็นว่าผลการดำเนินงานของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ เป็นอย่างไรในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,555.74 จุด ลดลง 8.67 จุด, -0.16%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,997.35 จุด ลดลง 10.22 จุด, -0.06%

เกร็ก บาสซูค ซีอีโอของ AXS Investments กล่าวว่า ภาวะตลาดสะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบการถือหุ้นของนักลงทุน ในขณะที่วิเคราะห์ผลการดำเนินงาน ข้อมูลเศรษฐกิจ และสถานการณ์ทางการเมืองของสหรัฐฯ ปัจจัยเหล่านี้จะมีผลต่อการลงทุนของนักลงทุนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

UPS รายงานผลประกอบการไตรมาสสองที่ต่ำกว่าคาดทั้งรายได้และกำไรสุทธิ ส่งผลให้หุ้นลดลง 12% ซึ่งเป็นวันที่ลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ เจนเนอรัล มอเตอร์ส(General Motors) มีผลการดำเนินงานสูงกว่านักวิเคราะห์คาด แต่หุ้นร่วงลง 6.4% เนื่องจากบริษัทชะลอแผนรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ

หุ้นโคคา-โคลา(Coca-Cola) เพิ่มขึ้น 0.3% หลังรายงานรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์

ฤดูกาลผลประกอบการยังเริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่ง ข้อมูล FactSet เผยว่า มีบริษัทประมาณ 20% ใน S&P 500 ที่แจ้งผลประกอบการไตรมาสสอง โดย 80% ดีกว่าคาดการณ์

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทอัลฟาเบทและเทสลาที่จะเปิดเผยหลังตลาดปิด ซึ่งเป็นครั้งแรกของการแจ้งผลการดำเนินงานของหุ้นในกลุ่ม Magnificent 7

ทั้งนี้ หลังปิดตลาด อัลฟาเบท(Alphabet)บริษัทแม่ของ Google รายงานผลการดำเนินงานดีกว่าคาด และ ประกาศแจกเงินปันผล 0.20 ดอลลาร์

ส่วนเทสลา(Tesla) รายงานกำไรลดลง 45% ในไตรมาสที่สองแต่รายได้ดีกว่าคาด

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงาน ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิถุนายนลดลง 5.4% เมื่อเทียบรายเดือน มาที่ 3.89 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023และต่ำกว่า 3.99 ล้านยูนิตที่นักวิเคราะห์คาด

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ปีนี้ และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)

ตลาดยุโรปปิดบวก หลังหุ้นที่เทคโนโลยีพุ่งขึ้นหลังจากการรายงานกำไรที่แข็งแกร่งจาก SAP ช่วยชดเชยการปรับลงของหุ้นทรัพยากรตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง

การรายงานผลประกอบการจากบริษัทเทคโนโลยีช่วยหนุนตลาด โดย SAP บริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ที่สุดของยุโรปพุ่งขึ้น 7.2% สู่ระดับ all-time high หลังจากที่รายงานกำไรจากการดำเนินงานรายไตรมาสดีกว่าที่คาด โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของรายได้และการลดต้นทุนที่มากขึ้น

ดัชนีกลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 1.4% โดยหุ้นชิปอื่นๆ เช่น ASML , ASMI และ BESI ก็เพิ่มขึ้นระหว่าง 1.2% ถึง 4.2% เช่นกัน

หุ้น Compass Group ซึ่งเป็นบริษัทจัดเลี้ยงของอังกฤษ พุ่งขึ้น 4.5% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้และผลกำไรรายปีเป็นครั้งที่สองแล้วในปีนี้

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 515.47 จุด เพิ่มขึ้น 0.68 จุด, +0.13%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,167.37 จุด ลดลง 31.41 จุด, -0.38%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,598.63 จุด ลดลง 23.39 จุด, -0.31
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,557.70 จุด เพิ่มขึ้น 150.63 จุด, +0.82%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.44 ดอลลาร์ หรือ 1.84% ปิดที่ 76.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 1.69% ปิดที่ 81.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล