HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวลดลงแทบทั้งภูมิภาค หลังรายงานข่าวประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัดสินใจถอนตัวลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี นักลงทุนยังประเมินผลกระทบไอทีล่มทั่วโลกในวันศุกร์ที่ผ่านมา จากข้อผิดพลาดในการอัปเดตของ CrowdStrike บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงแทบทั้งภูมิภาค หลังมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนตัดสินใจถอนตัวจากการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐและละเสนอชื่อนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยมีคู่แข่งคืออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
เหอปี้ เฉิน นักวิเคราะห์จาก IG Markets กล่าวว่า เมื่อต้องเผชิญกับความประหลาดใจอย่างล้นหลามเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ตลาดเอเชียจะถูกกดดันมากขึ้น กระแสของการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอาจส่งผลกระทบต่อหุ้นเอเชียหนักกว่าสัปดาห์ก่อน เนื่องจากนักลงทุนประเมินบริบททางการเมืองที่ไม่คุ้นเคย ตลาดเงินตราต่างประเทศก็จะมีแรงกดดันที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตลาดได้รับแรงหนุนจากการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีน(People’s Bank of China)อย่างไม่คาดคิดและเป็นการลดครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี โดยลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดี(Loan Prime Rate:LPR )ระยะ 1 ปีและ 5 ปีลง 0.10% จาก 3.45% และ 3.95% ตามลำดับ
ดอกเบี้ยLPR ระยะเวลา 1 ปีเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับสินเชื่อองค์กรส่วนใหญ่ และ LPR ระยะเวลา 5 ปีเป็นอัตราอ้างอิงสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย
การลดดอกเบี้ยเกิดขึ้นหลังจากจีนเผยแพร่เอกสารนโยบายที่มีจุดมุ่งหมายด้านเศรษฐกิจเมื่อวันอาทิตย์ โดยมีแผนการที่ครอบคลุมเพื่อเสริมสร้างฐานะการเงินของรัฐบาลท้องถิ่นที่เป็นหนี้ ขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์ได้ประกาศแผนแม่บทระยะยาวที่มุ่งเน้นการจัดสรรรายได้จากส่วนกลางไปยังกองทุนท้องถิ่นเพิ่มขึ้น เช่น โดยการอนุญาตให้รัฐบาลระดับภูมิภาคได้รับส่วนแบ่งภาษีการบริโภคที่มากขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจะประเมินผลกระทบของการขัดข้องด้านไอทีครั้งใหญ่ทั่วโลกในวันศุกร์ที่ผ่านมา จากข้อผิดพลาดในการอัปเดตของ CrowdStrike บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์
ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูล GDP จากเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา รวมถึงข้อมูลกิจกรรมโรงงานจากทั่วภูมิภาค โดยเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาจะประกาศตัวเลข GDP ในไตรมาสที่สองในวันพฤหัสบดี
ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อจากสหรัฐฯ และสิงคโปร์ในวันศุกร์และวันอังคาร ตามลำดับ
ณ เวลา 9.50 น. ในประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 39,609.99 จุด ลดลง 453.8 จุด , -1.13%
ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 2,959.85 จุด ลดลง 22.45 จุด, -0.75%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 17,457.14 จุด เพิ่มขึ้น 39.46 จุด, +0.23%
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,753.51 จุด ลดลง 41.95 จุด, -1.5%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ 22,173.74 จุด ลดลง 695.52 จุด, -3.04%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.36 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ซื้อขายที่ 80.49 ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 0.3 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ซื้อขายที่ 82.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล