HoonSmart.com>>บล.เอเซีย พลัส มอง EA มีช่องทางหาเงินมาคืนหุ้นกู้อีกมาก ทั้งสภาพคล่องปัจจุบัน รายได้ประจำ สถาบันการเงิน สินทรัพย์ลงทุน หาผู้ร่วมทุนเพิ่ม มั่นใจผลกระทบแรงแค่ช่วงแรก ความมั่นใจจะเพิ่มขึ้นตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาภายใน แนะนักลงทุนใช้ความระมัดระวังในการลงทุนพร้อมติดตามข่าวใกล้ชิด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวถึง ผลกระทบจากกรณีการที่ผู้บริหารของบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ถูกกล่าวโทษจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และนำมาซึ่งการเปลี่ยนบอร์ดบริหาร ได้สร้างกระแสความกลัว และความกังวลของนักลงทุนในตลาดหุ้น และต่อตัวของบริษัท EA เองด้วย เพราะตำแหน่งของ EA จัดเป็นหุ้นที่ดีมาก เมื่อมีปัญหาเหล่านี้ทำให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจโดยเฉพาะในระยะแรกๆ จะหนักหน่อย แต่หลังจากนั้นเชื่อว่าความกลัวและความกังวลจะลดลงตามความคืบหน้าของการแก้ปัญหาบริษัท
ในกรณี ที่ EA ต้องหาเงินมาคืนหุ้นกู้นั้น ยังมีหลายทางเลือก เพราะบริษัทมีสินทรัพย์ที่จับต้องได้อยู่มาก โดยเงินก้อนแรกสที่ต้องดูก่อนเลย คือ สภาพคล่องของบริษัทฯในปัจจุบันว่ามีมากน้อยแค่ไหนที่สามารถใช้ได้ ถ้าไม่พอก็มาดูว่ารายได้จากการดำเนินงานในแต่ไตรมาส แต่ละปี มีเท่าไหร่ รวมกันเข้ามา ถ้ายังไม่พอ ก็ยังมีทางเลือกอีก คือ ไปหาจากเจ้าหนี้ต่างๆ ว่าธนาคารปล่อยกู้เท่าไหร่ ถ้าแบงก์ไม่ปล่อยกู้ ก็สามารถไปหามาจากสินทรัพย์ลงทุนของบริษัทที่มีอยู่ แล้วขายออกไปเพื่อหาเงินเข้ามา หรือ จะหาคนมาร่วมทุนด้วยการขายหุ้นบางส่วนออกไป ซึ่งนักลงทุนต้องติดตามว่าทางบริษัทจะใช้แนวทางไหน
ทั้งนี้ นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ซึ่งบริษัทไม่ได้แนะนำหุ้น EA มาระยะหนึ่งแล้ว และให้นักลงทุนทำการติดตามข่าวการแก้ปัญหาของบริษัทอย่างใกล้ชิด
น.ส.ลัพธ์พร ปานะกุล ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ตลาดรอง บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า กรณีของบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA กล่าวว่า นับจากที่บริษัทถูกลดเครดิตเรทติ้งองค์กร และหุ้นกู้ จาก A- เป็น BBB+ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา ทำให้มีการเสนอขายหุ้นกู้ EA ออกมาจากต่อเนื่อง เพราะคนเริ่มมองว่าบริษัทต้องมีปัญหาอะไรบางอย่างแล้ว และพอต่อมาวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) กล่าวโทษอีก ก็มีแรงขายออกมาหนักขึ้น แต่ไม่มีใครซื้อเลยตลอดช่วงที่ผ่านมา มีแต่คนเสนอขายอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม ไม่กระทบต่อตลาดตราสารหนี้โดยรวม เพราะการเสนอซื้อหรือเสนอขาย ยังคงเป็นปกติ แม้แต่ในวันนี้ ภาพรวมการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ยังคงปกติ
ทั้งนี้ จากการติดตามภาระหนี้ของ EA ล่าสุด EA มีหนี้หุ้นกู้ 31,000 ล้านบาท ตั๋วบีอี หรือ ตั๋วแลกเงินที่ครบกำหนดชำระ หรือ ตราสารหนี้ระยะสั้น ประมาณ 1,400 ล้านบาท มีเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินอีก 8,300 ล้านบาท และเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินอีก 17,000 ล้านบาท เหล่านี้คือโครงสร้างเงินกู้ ที่จะต้องแก้ปัญหาไปทีละเปราะ ซึ่ง EA ทำธุรกิจที่สร้างประโยชน์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับไทย โดยเฉพาะพลังงานสะอาด ก็หวังว่าจะสามารถแก้ปัญหาไปได้ด้วยดี