หุ้นโตเกียวร่วง 2% เงินเยนแข็งค่า

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ลดลง ดัชนี Nikkei ร่วงลง 2% เนื่องจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ ทำให้นักลงทุนขายทำกำไรจากที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้า

ใน กลุ่ม Prime Market หุ้นที่นำการปรับตัวลง คือกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มประกัน และกลุ่มธนาคาร

เงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับเงินเยนเมื่อวันพฤหัสบดีที่นิวยอร์ก โดยร่วงลงสู่ระดับล่างสุดที่ 157 เยนในช่วงสั้นๆ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน หลังจากข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตอกย้ำความหวังในการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ร่วงลงสู่ระดับ 157.40 ในช่วงเช้า เงินดอลลาร์ก็ดีดตัวขึ้นและเคลื่อนไหวที่ระดับบนของ 158 เยน จาก 158.83-93 เยน เมื่อเวลา 17.00 น. ในนิวยอร์ก เทียบกับ 161.62-64 เยน ช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่โตเกียว

รายงานภาวะเงินเฟ้อที่ชะลอส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวของสหรัฐฯ ลดลง และค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากมีแนวโน้มว่าส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยจะแคบลง

เยนอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 37 ปี เนื่องจากส่วนต่างถ่างออกอย่างต่อเนื่องระหว่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น

เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นแสดงความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดีประมาณ 4 เยน นักการทูตด้านสกุลเงินชั้นนำของญี่ปุ่น นายมาซาโตะ คันดะ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเขาจะไม่แสดงความคิดเห็นว่าทางการเข้ามาแทรกแซงตลาดสกุลเงินหรือไม่

กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นใช้เงินว่า 9 ล้านล้านเยน (57 พันล้านดอลลาร์) ระหว่างวันที่ 26 เมษายนถึง 29 พฤษภาคม เพื่อชะลอการอ่อนค่าของเงินเยนอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์

ในวันศุกร์รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง นายชุนอิจิ ซูซูกิ ปฏิเสธที่จะบอกว่าญี่ปุ่นได้แทรกแซงตลาดสกุลเงินเมื่อคืนนี้เพื่อพยุงค่าเงินเยนหรือไม่

ในงานแถลงข่าว นายซูซูกิไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธว่าทางการญี่ปุ่นได้ดำเนินการ ตรวจสอบอัตราสำหรับคู่เงินยูโร-เยน ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ผู้เข้าร่วมตลาดมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้การแทรกแซงตลาดอย่างแท้จริง

ณ เวลา 10.22 น. ในประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 41,388.92 จุด ลดลง 835.1 จุด , -1.98%

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลง จากการลดลงของหุ้นเทคโนโลยี ตามการร่วลงของหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อคืนนี้ หลังการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ ที่หนุนความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน

สหรัฐรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 3.0% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด จาก 3.3% ในเดือนพฤษภาคม และต่ำกว่า 3.1% ที่นักวิเคราะห์คาด เมื่อเทียบรายเดือนลดลง 0.1% สวนทางกับการเพิ่มขึ้น 0.1% ที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบรายปีจาก 3.4% ในเดือนพฤษภาคมจากระดับ 3.4% ในเดือนพ.ค.และ ต่ำกว่า 3.4% ที่นักวิเคราะห์คาด

นอกจากนี้นักลงทุนจับตาเงินเยนที่แข็งค่าและผันผวน

ในเอเชีย นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของหลายประเทศ ทั้งข้อมูลการค้าของจีน ซึ่งอาจจะเผยแพร่ข้อูลปริมาณเงินและสินเชื่อด้วย รวมไปถึงผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น และเงินเฟ้อของอินเดีย

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 2,966.93 จุด ลดลง 3.82 จุด, -0.13%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 18,149.11 จุด เพิ่มขึ้น 316.78 จุด, +1.76%
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,857.43 จุด ลดลง 33.29 จุด,-1.17%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ 23,955.49 จุด ลดลง 474.84 จุด, -1.95%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.4 ดอลลาร์ หรือ 0.48% ซื้อขายที่ 83.02 ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 0.28 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ซื้อขายที่ 85.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล