SAMART มั่นใจครึ่งปีหลังโตทั้งกลุ่ม จ่อขายหุ้นกู้ต้นส.ค. ทริสคงเครดิต “BBB”

HoonSmart.com>> “สามารถคอร์ปอเรชั่น” (SAMART) เผยทริส เรทติ้ง คงอันดับเครดิต “BBB” พร้อมมุมมอง “บวก” หลังรู้ผลคดี BAGOC สะท้อนความเชื่อมั่น โอกาสเติบโต มั่นใจครึ่งปีหลังเติบโตทั้งกลุ่ม Backlog ทะลุ 22,500 ล้านบาท เตรียมเปิดขายหุ้นกู้ อายุ 3 ปี ระหว่าง 5-7 ส.ค.นี้ ชูดอกเบี้ย 5.40% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน

วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) กล่าวว่า การที่ทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิต “BBB” และให้มุมมองเป็นบวก หรือ positive outlook แก่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น หลังทราบผลคดี BAGOC นั้น เป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อสถานะการเงินของบริษัทในปัจจุบันและโอกาสการเติบโตในอนาคต โดยในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่างานในมือ (Backlog) ของทั้งกลุ่มให้ทะลุ 22,500 ล้านบาท จากมูลค่างานในมือสะสม ณ ปัจจุบันประมาณ 13,500 ล้านบาท ด้วยการ turn around ของสายงาน Digital ICT Solutions ภายใต้บริษัท สามารถเทลคอม (SAMTEL) ซึ่งคาดว่าจะปิดงานประมูลได้ในครึ่งปีหลังได้ถึง 8-9 พันล้านบาท

ส่วนกลุ่มธุรกิจ Utilities and Transportations ภายใต้บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น (SAV) ก็มีปัจจัยหนุนจากการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างจริงจังของรัฐบาลกัมพูชาและการเปิดเส้นทางการบินภายในประเทศกัมพูชาของ Air Asia ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินและรายได้ของ CATS

โครงการวิทยุการบินใน สปป. ลาว ก็มีความชัดเจนมากขึ้นเป็นลำดับ คาดว่าจะอัปเดตความคืบหน้าได้เร็วๆ นี้ ที่สำคัญ SAV จะไม่เป็นเพียง Holding Company แต่จะขยายและดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมบริการภายในสนามบินอย่างครบวงจร เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดและยั่งยืน โดยล่าสุด ได้เป็นพันธมิตรกับบริษัท แดนไทย อิควิปเม้นท์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าและบริการที่ใช้รองรับการปฏิบัติงานในท่าอากาศยาน

ล่าสุด บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการไถ่ถอนหุ้นกู้ของบริษัทฯก่อนครบกำหนดไถ่ถอน และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ โดยหุ้นกู้มีอายุ 3ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.40 ต่อปี% โดยจะจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ มีผู้จัดการการจัดจำหน่ายได้แก่ บมจ.บล.ดาโอ (ประเทศไทย), บล.เอเซีย พลัส,บล.บลูเบลล์, บล.โกลเบล็ก, บมจ.บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย), บมจ.บล.คิงส์ฟอร์ด ,บล.สยามเวลธ์, บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง,บมจ.บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บล.ทรีนีตี้ และ บมจ.บล.บียอนด์ โดยคาดว่าจะเสนอขายช่วง 5-7 ส.ค.นี้

“กลุ่มสามารถดำเนินธุรกิจยาวนานมากว่า 70 ปี มีการพัฒนาธุรกิจให้เข้ากับยุคสมัยมาโดยตลอด มีความพร้อมและแผนการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน และที่ผ่านมาได้มีการเสนอขายหุ้นกู้ โดยไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ สามารถจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยครบตามกำหนดเวลามาโดยตลอด จึงมั่นใจว่าการออกเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน” นายวัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้าย