EA เป้ารายได้ปีนี้โตกว่า 50%, ตั้งงบลงทุน 1.1 หมื่นล้านบ. เน้นลงทุน EV

HoonSmart.com>>”พลังงานบริสุทธิ์”(EA)ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตกว่า 50% หลัก ๆ มาจากธุรกิจ EV วางเป้าส่งมอบรถ EV ฺBus ปีนี้ราว 3 พันคัน โดยวางงบลงทุน (CAPEX) ปีนี้ 1 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้ในธุรกิจ EV ทั้งนี้เล็งเห็นผลตอบรับ EV Truck ในไตรมาส 3-4 ปีนี้ ส่วน EV Train อยู่ระหว่างทดสอบกับการรถไฟฯ คาดได้เห็นไม่เกินต้นปี 67 นอกจากนี้ บริษัทมีเป้าหมายขายคาร์บอน 5 แสนตัน ภายในปี 73 ส่วนการปรับลดค่า Ft ไม่ทำให้กำไรหดมากนัก

นายวสุ กลมเกลี้ยง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวางแผนและกลยุทธ์การลงทุน บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กล่าวว่า บริษัทฯตั้้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโตกว่า 50% หลัก ๆ มาจากธุรกิจ EV ซึ่งปีนี้คาดว่าจะสามารถส่งมอบ EV Bus ได้ประมาณ 3,000 คัน ส่วนการลงทุน (CAPEX) ตั้งงบฯไว้ปี 66 ที่ 10,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะไปใช้ในธุรกิจ EV

ปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 240,000 ล้านบาท ปัจจุบันธุรกิจของบริษัทมี 3 แกน แกนแรกเป็น Biofuel ตัวนี้บริษัทจะผลิต B100, Bio PCM ซึ่งเป็น Green Diesel แล้วจะต่อยอดไปเป็น Bio-jet fuel แกนที่สองเป็นแกนที่ทำเงินให้กับบริษัทในปีที่ผ่าน ๆ มา เป็นธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งมีทั้งพลังงานลมอยู่ที่ 386 เมกกะวัตต์ และโซลาร์ อยู่ที่ 278 เมกกะวัตต์ และแกนสุดท้าย ปีนี้เริ่มเห็นผลประกอบการเชิงบวกจากแบตเตอรี่ และ EV ปัจจุบันโรงงานเปิดดำเนินการแล้ว มีกำลังการผลิต (Capacity) 1 กิกะวัตต์ ส่วนโรงรถสามารถรับได้ถึง 3 พันคันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น รถหัวลาก ซึ่งรถเมล์ก็ได้ส่งรถไปแล้ว 2,000 คัน ปัจจุบันวิ่งอยู่เกือบทั่วกทม. และในอนาคตก็น่าจะมี EV ฺBus วิ่งในต่างจังหวัดด้วย

“ต่อไปเราก็จะมี EV Truck ซึ่งตอนนี้ก็มีลูกค้าเอารถไปลองใช้แล้ว อย่างที่เปิดเผยได้ก็มี JWD เอาไปลองใช้แล้ว ดังนั้นคาดว่าจะเห็น Impact ได้ไตรมาส 3-4….ส่วน EV Train ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบกับการรถไฟฯ ซึ่งคาดว่าจะได้เห็น EV Train ได้ในปลายปี 66 หรือต้นปี 67”

่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีรายได้เติบโตถึง 34% ปีที่แล้ว มีรายได้ถึง 27,500 ล้านบาท หลัก ๆ มาจากการเติบโตของ EV และ System สำหรับปีนี้ไตรมาส 1/66 มีรายได้โตถึง 1.85 เท่า หลัก ๆ ก็มาจากธุรกิจ EV สำหรับอตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit) ในไตรมาส 1/66 ก็โตกว่าปีที่แล้วถึง 1.8 เท่าเช่นกัน ส่วนหนี้สินปลายปี 65 และไตรมาส 1/66 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสคัญ หลัก ๆ ส่วนหนึ่งมาจากหนี้สินระยะสั้น และเทรดไฟแนนซ์ ปัจจุบันอยู่ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ Debt to EBITDA สูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว อยากให้มองที่รายได้, Gross Profit ที่เติบโตขึ้น ซึ่งจะทำให้ Debt to EBITDA จะลดลงในปลายปีนี้

รายได้จากธุรกิจพลังงานปีนี้ก็คาดว่าจะโตถึง 34% หลัก ๆ มาจากลมที่มีดีกว่าปีก่อน ๆ และโซลาร์ผลดำเนินงานดีขึ้นประมาณ 10% ในแง่ของเมกกะวัตต์โตถึง 16% อีกส่วนมาจากค่า Ft ที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะขายคาร์บอนได้ถึง 5 แสนตัน ภายในปี 2573 ซึ่งอาจจะเริ่มเห็นการขายคาร์บอนในไตรมาส 3/66 เป็นต้นไป โดยราคาคาร์บอนในแต่ละประเทศไม่เท่ากัน ซึ่งที่ยุโรปจะมีราคาที่แพงกว่าไทย

นายวสุ กล่าวต่อว่า การปรับลดค่า Ft ของภาครัฐไม่ได้ทำให้กำไรของบริษัทลดลงมาก เนื่องจากบริษัทมีการพัฒนาตลอดเวลา ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นทั้งในส่วนของพลังงานลม และโซลาร์