HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดลบ 2.66 จุด เคลื่อนไหวไซด์เวย์ กลุ่มไฟแนนซ์กดดันหลังธปท.จะคุมธุรกิจเช่าซื้อ และราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงช่วงบ่าย อีกทั้งตลาดขาดปัจจัยใหม่ การเมืองในประเทศก็ยังไม่แน่นอน นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,086.81 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,329.81 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์ในกรอบ 1,520-1,545 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 6 มิ.ย.66 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,528.54 จุด ลดลง 2.66 จุด หรือ -0.17% มูลค่าซื้อขาย 47,223.17 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,539.49 จุด ต่ำสุด 1,526.93 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,086.81 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 328.87 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,329.81 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 85.87 ล้านบาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์ รับแรงขายจากหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์หลังกังวลธปท.จะเข้าควบคุมธุรกิจเช่าซื้อ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบก็อ่อนตัวลงในช่วงบ่าย แต่สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังยืนเหนือ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากก่อนหน้านี้ที่ปรับขึ้นมา 3 วันติดต่อกัน ซึ่งตลาดยังไม่ค่อยไว้วางใจทิศทางราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ และปัจจัยการเมืองในประเทศก็ยังไม่แน่นอน ส่วนเงินเฟ้อไทยล่าสุดออกมาต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ดีให้ติดตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยต่อไป
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้เปิดในแดนลบเล็กน้อยราว 0.1-0.2% หลังจากที่ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ และยุโรปหดตัว และล่าสุด PMI ภาคบริการของยุโรปก็ออกมาแย่กว่าตลาดคาด ทั้งนี้ ให้ติดตามตัวเลขการส่งออกของจีนที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ (7 มิ.ย.) ซึ่งตลาดคาดว่าจะออกมาไม่ดี แต่ก็มีความคาดหวังจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม รวมถึงติดตาม GDP ไตรมาส 1/66 ของญี่ปุ่น และยุโรปด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (7 มิ.ย.) เคลื่อนไหวไซด์เวย์ในกรอบ 1,520-1,545 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
DELTA ปิดที่ 101.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +2.53% มูลค่าซื้อขาย 2,164.71 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 145.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.75% มูลค่าซื้อขาย 1,984.85 ล้านบาท
GULF ปิดที่ 45.25 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ -3.72% มูลค่าซื้อขาย 1,657.72 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 28.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.88% มูลค่าซื้อขาย 1,481.89 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 132.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.38% มูลค่าซื้อขาย 1,268.04 ล้านบาท