HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,290 – 1,310 จุด ระหว่างรอศาล รธน.นัดพิจารณากรณียุบพรรคก้าวไกลวันพรุ่งนี้ แนะ TU-CCET
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,290 – 1,310 จุด ระหว่างรอศาล รธน.นัดพิจารณากรณียุบพรรคก้าวไกลในวันพรุ่งนี้ แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่น TOP, BCP, SPRC, BSRC ตามค่าการกลั่นสิงค์โปร์ปรับขึ้น WoW กลุ่มเครื่องดื่ม OSP,COCOCO จากอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศฟื้นตัวดี , PSL ตามดัชนี BDI ปรับขึ้น
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA +0.13%, S&P500 +0.27%, Nasdaq +0.83% ได้แรงหนุนจากกลุ่เทคโนโลยี +1.3% นำโดย Apple, Microsoft, Amazon และสินค้าฟุ่มเฟือย +0.7% ส่วนรายงาน PMI ภาคผลิตสหรัฐ มิ.ย. อยู่ที่ 51.6 & พ.ค. 51.3 สูงสุดในรอบ 3 เดือน
ประเด็นเศรษฐกิจวันนี้ติดตามถ้อยแถลงของ ปธ.เฟดในงานประชุมของ ECB และ JOLTS เผยตัวเลขเปิดรับสมัครงาน พ.ค. คาด 7.86 ล้าน และ เม.ย. 8.05 ล้าน ตำแหน่งวาน, วันพุธ ติดตาม Fed Minutes มิ.ย., วันพฤหัสตลาดหุ้นสหรัฐปิดในวันชาติ และวันศุกร์รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ มิ.ย. คาด 190,000 และ พ.ค. 272,000 ราย, อัตราว่างงานสหรัฐ มิ.ค. คาดทรงตัวที่ 4%
หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ CCET (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 4.65 บาท) บริษัทมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตของความต้องการใช้ Solid State Drive (SSD) สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ AI เข้ามาทดแทนการชะลอชั่วคราวของธุรกิจรับจ้างประกอบ EMS เดิม เช่น printer, set top box ประกอบกับการปรับลดต้นทุน ค่าใช้จ่าย SG&A และดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่ออัตรากำไรโดยเฉพาะใน 2H67 แนวโน้มรายได้จะเริ่มฟื้นตัวจากความต้องการสินค้า SSD และการ Restocking สินค้า Printer ประกอบกกับโรงงานใหม่ที่เพชรบุรีจะเริ่มเปิดดำเนินการ ซึ่งเป็นโรงงานที่ใช้ประกอบสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง เช่น EV charger และ Smart wearable เป็นไปตามแผนในปี 68 ที่ต้องการเพิ่มลูกค้าใหม่ 10%-20% ของฐานเดิม เน้นไปที่กลุ่ม SSDs และมาร์จิ้นสูง
ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรปี 67-68 อยู่ที่ 2.36 พันล้านบาท +111%YoY และ 2.81 พันล้านบาท +19%YoY
หุ้น TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.50 บาท) กำไรปกติ 1Q67 อยู่ที่ 892 ล้านบาท (+10.60%YoY, -24.12%QoQ) สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ดีYoY ในส่วน ของ operation หลักจากธุรกิจ Petcare และ Ambient Seafood
ส่วน 2Q67 เราคาดเห็นกำไรแกว่งขึ้น YoY QoQ จาก 1.ฐานต่ำปกติใน 2Q66 จากในช่วงเวลาดังกล่าว Inventory คู่ค้าอยู่ในระดับสูงจึงไม่ออเดอร์สินค้าใหม่ 2.คาดต้นทุนราคาปลาทูน่าอยู่ในระดับต่ำ 1,300-1,500 usd/ton (จากช่วง 2Q66 ที่ 2,000 usd/ton ) ทั้งนี้ราคาปลาทูน่าที่มีโอกาสแกว่งจากโซนล่าง(ราว1,300 usd/ton ใน 1Q67) ขึ้นบน (แต่ไม่สูงเกินไป ไม่สูงกว่า 1,800 usd/ton โดย เม.ย.67 ที่ 1,375 usd/ton และ พ.ค.67 ที่ 1,480 usd/ton)
นอกจากต้นทุนสินค้าใน Inventory ถูกแล้ว ยังดีต่อการปรับราคาขายOEMขึ้นด้วย เป็นบวกมากต่อมาร์จิ้น