บล.ซีจีเอสฯคาดวันนี้หุ้นแกว่ง 1285-1320 แนะนำ TFG-HANA

HoonSmart.com>>บล.ซีจีเอสฯมองหุ้นวันนี้ นักลงทุนรอประเด็นการเมือง คาดแกว่งในกรอบเดิม  1285-1320  กลยุทธ์เน้นเทรดดิ้งกลุ่มขนาดกลางและเล็กที่กำไรไตรมาสที่ 2 และครึ่งปีหลังแข็งแกร่ง  รวมถึงหุ้นโกลบอล แนะนำ TFG-HANA

บล. ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) มองตลาดหุ้นวันนี้ คาดกรอบ SET แกว่งกรอบเดิม 1285-1320 จุด +/- รอคอยประเด็นทางการเมืองทั้ง คดียุบพรรคก้าวไกล ให้คู่กรณีมาตรวจพยานหลักฐาน 9 ก.ค. และ คดีพิจารณาหลักฐานคดีจริยธรรมนายกฯ กรณีประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของ 40 สว. ขอให้วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี โดยศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยื่นหลักฐานเพิ่มใน 15 วัน นัดพิจารณา 10 ก.ค.

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจ จีนรายงาน Caixin Manufacturing PMI ออกมาใกล้เคียงคาดที่ 51.8 (ตลาดคาด 51.5) เป็นกลางต่อกลุ่มปิโตรเคมี (SCC, IVL,SCGP, PTTGC)

กลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้นเทรดดิ้งกลุ่มขนาดกลางและเล็กที่ภาพรวมกำไรไตรมาสที่ 2 และครึ่งปีหลังแข็งแกร่ง รวมถึงหุ้น Global play (Exports / Commodities) และ Defensive play (ICT / Hospital)

แนะนำ KLINIQ ,ITC,TU, GFPT, HANA, CPF,TFG, ADVANC ส่วน Domestic play มองว่าหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมาพอสมควรและมีมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ (Undemanding Valuation) ได้แก่ CRC, LH,BBL, HMPRO มองเป็นการ DCA เพื่อรอการฟื้นตัวในไตรมาสที่ 4

หุ้นแนะนำ TFG สถานการณ์ในจีน กระทรวงเกษตรของจีนรายงานว่าจำนวนพ่อแม่พันธุ์สุกรในจีนลดลงซึ่งน่าจะมีสาเหตุจาก ราคาที่ตกต่ำในปี 2566 และ การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ที่ทำให้อุปทานของสุกรลดลง สถานการณ์ในเวียดนาม ราคาสุกรในเวียดนามอยู่ในขาขึ้นเพราะการระบาดของ ASF และ สถานการณ์การลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนค่อย ๆ ดีขึ้น

คาดว่าทิศทางราคาโภคภัณฑ์เป็นผลดีกับ CPF และ TFG มากขึ้นและน่าจะทำให้บริษัทมีกำไรเติบโตในไตรมาสที่ 2-3 มากไปกว่านั้น CPF คาดว่าต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ในปีนี้น่าจะต่ำกว่าปีก่อนประมาณ 10%

ในเชิงกลยุทธ์ หุ้นกลุ่ม Commodity ยังได้รับผลกระทบน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Domestic plays จากความไม่แน่นอนทางการเมือง และเชื่อว่าราคาหุ้นกลุ่มอาหารยังปรับตัวขึ้นน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Commodity อื่นๆ อาทิ ยางพารา / เรือเทกอง (Take profit : 4.28 / Stop loss : 3.98 )

นอกจากนี้ยังแนะนำหุ้น HANA เชื่อว่าตลาดชิปแบบอนาล็อก (analog chip) ได้ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาสแรกแล้วและคาดว่ารายได้ของ Hana จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นช่วงหกเดือนข้างหน้า สถานะสต็อกสินค้าของลูกค้าเริ่มดีขึ้นหลังจากปรับฐานอย่างมีนัยสำคัญช่วงหกเดือนที่ผ่านมา และ แนวทางจากผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลก (i.e. Texas Instruments, Broadcom) และคู่แข่งในธุรกิจการประกอบและทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ (OSAT) เป็นไปในทิศทางบวก

ประมาณการว่า Powermaster Semiconductor (PMS) จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 22% qoq เป็น 110 ล้านบาท (-15% qoq) ในไตรมาสที่ 2 จากการผลิตอุปกรณ์ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) เพิ่มขึ้น 50% และยอดขาย SiC ที่เพิ่มขึ้น 15% หลังอุปสงค์และราคาในจีนเริ่มทรงตัว

คาดว่า HANA จะมีกำไรปกติต่อหุ้นเติบโต 36% qoq เป็น 480 ล้านบาท (-36% yoy) ในไตรมาสที่ 2 จากอัตราการใช้กำลังการผลิตและมาร์จินที่เพิ่มขึ้น (Take profit : 47.00 / Stop loss : 41.50 )

ส่วนมุมมองของนักลงทุนมาเลเซียมีทิศทางลบต่อตลาดไทย อย่างไรก็ดียังคงมีความสนใจในหุ้น Industrial Estate จากการ Data Centre และ ในฐานะผู้ได้รับประโยชน์จากการไหลเข้าของ FDI ที่แข็งแกร่ง ชอบ AMATA มากกว่า WHA จาก Valuation และการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่สูงขึ้น ยังคง Overweight ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์นิคมอุตสาหกรรม (Industrial Estate) แต่เป็น Neutral กับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย (Residentail Estate)