“คิงส์ฟอร์ด” คาดแนวโน้ม SET ปรับขึ้น แนะหุ้นเด่น BBL-MAKRO

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” มองแนวโน้มหุ้นได้แรงหนุนสหรัฐสามารถตกลงขยายเพดานหนี้ ดัชนีทดสอบแนวต้าน 1,540 – 1,545 จุด ส่วนแนวรับ 1,520 – 1,525 จุด แนะทยอยซื้อหุ้นแบงก์ BBL, KBANK, KTB, KKP คาด NIM สูงขึ้น หาก กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ย พร้อมเชียร์หุ้นกลุ่มค้าปลีกและอุปโภคได้แรงหนุนนโยบายขึ้นค่าแรง ชี้เป้า CPALL, MAKRO, BJC, ICHI, SNNP กลุ่มลีสซิ่งลิสซิ่งแนะ MTC, TIDLOR คาดต้นทุนดอกเบี้ยใกล้จุดสูงสุด ส่วนหุ้นเด่นวันนี้ชู BBL, MAKRO

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,520 – 1,525 จุด แนวต้าน 1,540 – 1,545 จุด คาดได้แรงหนุนหลังสหรัฐสามารถตกลงขยายเพดานหนี้ และการหารือตัว ปธ.สภาผู้แทน ฯ ในวันพรุ่งนี้ แนะนำทยอยซื้อ BBL, KBANK, KTB, KKP คาด NIM สูงขึ้น หาก กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ย กลุ่มค้าปลีกและอุปโภค CPALL, MAKRO, BJC, ICHI, SNNP ได้ปัจจัยหนุนจากนโยบายปรับค่าแรง และกลุ่มไฟแนนซ์ ลิสซิ่ง MTC, TIDLOR คาดต้นทุนดอกเบี้ยใกล้จุดสูงสุด

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 181.00 บาท) BBL รายงานกำไรสุทธิ 1Q66 ที่ 1 หมื่นล้านบาท +34%QoQ, +42%YoY มีปัจจัยหนุนจากการเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย +59%QoQ, +9%YoY และการวัดมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงิน ส่วนค่าใช้จ่าย Cost to income ลดลงอยู่ที่ 47% เทียบกับ 4Q65 ที่ 52% และ NPL ทรงตัว

ภาพรวมในปี 66 ธนาคารตั้งเป้ายอดสินเชื่อเติบโต 4.6% (สิน 1Q66 อยู่ที่ 2.64 ล้านล้านบาท) โดยเน้นปล่อยสินเชื่อกลุ่มธุรกิจรายใหญ่และกิจการในต่างประเทศที่คาดว่าจะเติบโต 5-6% ตามการเติบโตของเศรษฐกิจอาเซียน ส่วนเป้า NIM อยู่ที่ 2.5% แต่ในช่วง 1Q66 สูงกว่าที่ 2.84% หนุนจาก Loan Yield ที่เพิ่มขึ้นและยังมีแนวโน้มขึ้นต่อจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งของ ธปท. ส่วน Cost to income อยู่ที่ 50% เราประเมินกำไรสุทธิปี 66 ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท +13%YoY

หุ้น MAKRO* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 44.00 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q66 อยู่ที่ 2,166 ลบ. (+6%YoY, -12% QoQ ) ลดลง QoQ ตามฤดูกาล แต่ภาพ YoY เติบโตได้จากฝั่งรายได้ธุรกิจค้าส่งจากการ reopening รวมถึงกลุ่ม HoReCa ด้านภาพรวมการดำเนินงานปกติทั้งปี คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวจาก 1.ฝั่งรายได้ที่มีแรงหนุนการเปิดประเทศ โดยเฉพาะตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยต่อเนื่อง 2.ฝั่งต้นทุนค่าใช้จ่าย ที่ในปีก่อนมีเรื่องการ rebrand Lotus และปรับปรุงระบบ IT

ขณะที่บริษัทมีการปรับโครงสร้างหนี้ส่งผลให้เราคาดว่าดอกเบี้ยจ่ายในส่วนของที่เหลือของปีจะลดลง นอกจากนี้ ในส่วนของค่าไฟเองก็มีแนวโน้มลดลงจากช่วง ม.ค.- เม.ย.66 ทั้งนี้ตลาดคาดว่าในปี66 และ67 กำไรสุทธิของ MAKRO จะอยู่ที่ระดับ 11,658 ล้านบาท (+51%YoY) และ 14,152 ล้านบาท (+21%YoY)