“บลน.เวลธ์ คอนเซปท์” น้องใหม่มาแรง 5 เดือน AUM 2 พันล. ปักธง 3 ปีขึ้น TOP 5

HoonSmart.com>> “บลน.เวลธ์ คอนเซปท์” น้องใหม่วงการ “นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน” ภายใต้ผู้ถือหุ้นใหญ่ “เอก อาหุนัย” ลูกชาย “สมโภชน์ อาหุนัย” บิ๊ก EA โชว์ผลงาน 5 เดือน AUM โตเกือบ 2,000 ล้านบาท ลูกค้ามากกว่า 450 ราย เจาะกลุ่มไฮเน็ตเวิร์ค คาดสิ้นปี AUM แตะ 3,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้า 3 ปีทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ขึ้นสู่ “TOP 5” ชูจุดเด่น “เจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน” มืออาชีพมากประสบการณ์ แนะนำลูกค้าใกล้ชิด ด้านระบบซื้อขายหน่วยลงทุนสะดวกรวดเร็ว ช่วยลูกค้าบริหารความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน

เจษฎา ยงพิทยาพงศ์

นายเจษฎา ยงพิทยาพงศ์ กรรมการและผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน (บลน.) เวลธ์ คอนเซปท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา หลังจากได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภท ง เป็นนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่ง 5 เดือนที่ผ่านมามีการเติบโตรวดเร็วอย่างก้าวกระโดด มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) เกือบ 2,000 ล้านบาท และมีฐานลูกค้ามากกว่า 450 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายใหญ่ (high net worth) และคาดว่า AUM จะเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2566 ขณะที่ปี 2567 จะเติบโตเป็น 5,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมายใน 3 ปี (ปี 2568) จะแตะ 1 หมื่นล้านบาท ขึ้นสู่ 1 ใน 5 ของอุตสาหกรรม

ขณะที่ฐานลูกค้าคาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องสิ้นปี 2567 จะมีลูกค้ามากกว่า 700 รายและเพิ่มเป็น 1,000-1,500 ราย ในปี 2568

จุดเด่นของบริษัท คือ การดูแลและให้บริการอย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน (RM) ที่มากประสบการณ์ในการทำงานไม่ต่ำกว่า 7-10 ปี ปัจจุบันมี RM จำนวน 42 ราย และตั้งเป้าภายในปีนี้จะเพิ่มอีก 20 ราย หลังจากเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ และอีกจุดเด่นการที่บริษัทเลือกใช้ระบบ Fund Connext / Streaming Fund+ และ ระบบ E-open ซึ่งเป็นระบบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมกองทุนรวม จึงมีประสิทธิภาพสูง โปร่งใสและสะดวกรวดเร็วในการโอนพอร์ต

อย่างไรก็ตามการเติบโตของบริษัทในช่วง 5-6 เดือนแรกจะมาจากลูกค้ารายใหญ่เป็นหลักประมาณ 80-90% ซึ่งหลังจากนี้บริษัทจะเริ่มช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์บริษัทให้เป็นที่รู้จัก ขณะที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ชอบทำธุรกรรมด้วยตัวเอง บริษัทก็มีการให้บริการผ่านออนไลน์ website www.wealthconcept.co.th และ Streaming fund+application สามารถเปิดบัญชีออนไลน์ได้ โดยใช้ระบบบริการหักบัญชีอัตโนมัติ (ATS) เพื่อชำระค่าซื้อกองทุนรวมแบบอัตโนมัติผ่านบัญชีธนาคารที่ผูกไว้ เพื่อปิดช่องโหว่ในการทำธุรกรรมด้านการเงิน

“บริษัทมีจุดเด่นที่มีเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนที่มากประสบการณ์ คอยแนะนำการลงทุนและบริการลูกค้าอย่างใกล้ชิด เปรียบเสมือนการเป็นเลขานุการส่วนตัว โดยเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่มาจากธนาคารพาณิชย์ ที่มีประสบการณ์ค่อนข้างสูง และมีความเข้าใจในกฎเกณฑ์ของหน่วยงานภาครัฐ เช่น ก.ล.ต. จึงเป็นปัจจัยทำให้ AUM ของบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนทำงานประจำกับบริษัท ไม่ได้รับฟรีแลนซ์และการทำงานประจำทำให้ดูแลลูกค้าใกล้ชิด ลูกค้าพอใจก็บอกต่อ”นายเจษฎา กล่าว

ขณะเดียวกันบริษัทมีการอัพเดทข้อมูล มุมมองการลงทุนทุกวัน เพื่อให้ RM แนะนำลูกค้าโดยตรงและจัดพอร์ตให้ลูกค้า รวมทั้งเผยแพร่มุมมองการลงทุนผ่านเฟสบุ๊คของบริษัท เพื่อให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งนำเสนอธีมการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด

ปัจจุบันบลน.เวลธ์ คอนเซปท์ เป็นตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุนให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จำนวน 11 บริษัท และภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 17 บริษัท ซึ่งครอบคลุมกองทุนในอุตสาหกรรม ขณะที่การลงทุนของลูกค้าส่วนใหญ่ 80-90% เป็นกองทุนเพื่อลงทุนต่างประเทศ (FIF) ซึ่งลูกค้าสามารถกระจายการลงทุนทั่วโลกผ่านกองทุนรวมได้ นอกเหนือจากการลงทุนหุ้นในประเทศด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันกองทุน FIF เป็นกลุ่มกองทุนที่ได้รับค่าธรรมเนียมในการขายประมาณ 1.5-1.6% ซึ่งสูงกว่ากองทุนรวมประเภทอื่น ส่งผลให้บริษัทเริ่มมีกำไรภายใน 1-2 เดือนและครึ่งปีหลังน่าจะคุ้มทุน

อย่างไรก็ตามหลังจากให้บริการด้านการซื้อขายกองทุนรวมแล้วในอนาคตมีแผนจะขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภท ข ธุรกิจตราสารหนี้ ทำให้บริษัทจะมี โปรดักส์เกี่ยวกับตราสารหนี้ หุ้นกู้นำเสนอให้แก่นักลงทุนได้ รวมทั้งการมีพาร์ทเนอร์ที่อยู่ภายใต้ของกลุ่มผู้ถือหุ้นจะช่วยต่อยอดธุรกิจของบริษัทให้เติบโตได้มากขึ้น

สำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทประกอบด้วย นายเอก อาหุนัย (ลูกชายนายสมโภชน์ อาหุนัย ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA)) ถือหุ้นสัดส่วน 22.86% เท่ากับ น.ส.ณัฏฐญาดา บูรณอรรถชัย และนาย ธำมรงค์ ยงพิทยาพงศ์ ถือ 14.29%

นายเจษฎา กล่าวถึงมุมมองการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังได้รับผลกระทบจากการเมืองในประเทศ รวมทั้งฟันด์โฟลว์ไหลออก ซึ่งอาจเป็นจังหวะในการทยอยซื้อหุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานดีเข้าพอร์ต ส่วนตราสารหนี้จะดูแต่เรทติ้งอย่างเดียวไม่ได้ แนะนำให้ดูธรรมาภิบาลของผู้บริหารประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย

สำหรับตลาดหุ้นต่างประเทศมองหุ้นกลุ่มบิ๊กเทคในสหรัฐยังน่าสนใจ หุ้นจีน A-Share น่าทยอยสะสม รวมถึงหุ้นเวียดนามที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ขณะที่คาดการณ์ปีนี้มีการเติบโตของเศรษฐกิจที่สูงและแนวโน้มยังเติบโต แต่การที่ตลาดเล็กความผันผวนสูงจึงแนะนำลงทุน 2-3 ปี