HoonSmart.com>>”พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้แรงหนุนจาก 8 พรรคจับมือจัดตั้งรัฐบาลใหม่ นัดเปิดโผชัดเจน 22 พ.ค.นี้ บล.หยวนต้าวิเคราะห์หุ้นได้ประโยชน์-รับผลกระทบจากนโยบายพรรคก้าวไกล-เพื่อไทย ลั่นแบงก์ใหญ่-บัตรเครดิตส้มหล่น อสังหาฯขนาดกลาง-เล็กเด่น ชู SPALI ถูกมาก P/E แค่ 5 เท่า ค่าแรงสูงขึ้น กระทบรับเหมาฯ-อิเล็กทรอนิกส์จุก ขึ้นราคาสินค้ายาก ด้านบล.ทรีนีตี้ปรับลดดัชนีเหมาะสมลง กรณีดีสุดเคยให้ไว้ 1630 เหลือ 1600 กรณีฐานจาก 1520 เป็น 1490 และกรณีแย่ลดจาก 1410 เหลือ 1390 ด้านต่างชาติยังคงขายหุ้นไทยต่อ 3,243 ล้านบาท
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรรค และแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวของพรรคก้าวไกล พร้อมแกนนำอีก 7 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเป็นธรรม พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคเพื่อไทรวมพลัง แถลงการจับมือจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยร่วมกันอย่างเป็นทางการ โดยให้การสนับสนุน นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ตามมติเสียงข้างมาก พร้อมตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดทำ MOU แสดงการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ โดยจะแถลงรายละเอียดในวันที่ 22 พ.ค. 2566 ซึ่งจะครอบคลุมทุกมิติทั้งการเมือง และปากท้อง เพื่อแก้ไขวิกฤติการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม
ตลาดหุ้นวันที่ 18 พ.ค.รับข่าวดีต่างประเทศและการเมืองเริ่มชัดเจน แต่ดัชนีไปไม่สุด แตะระดับสูงสุด 1,541.06 จุด ก่อนถูกขายมาปิดที่ระดับ 1,526.69 จุด เพิ่มขึ้น 3.95 จุด หรือ +0.26% มูลค่าซื้อขาย 54,749.78 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายต่อ 3,243.62 ล้านบาท สวนทางสถาบันไทยซื้อ 2,474.53 ล้านบาทและนักลงทุนไทยซื้อสุทธิ 1,353 ล้านบาท
ตลาดหุ้นบวกได้ เพราะมีแรงซื้อหุ้นธนาคารขนาดใหญ่และหุ้นอภินิหาร DELTA พุ่งแรงปิดที่ 87.50 บาทบวก 7 บาทคิดเป็น 8.70%
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นวันนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดในภูมิภาคเอเชียและยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็บวกได้เล็กน้อย หลังการเจรจาเพดานหนี้ของสหรัฐคืบหน้าในเชิงบวก แต่ยังต้องติดตามวันอาทิตย์นี้ที่จะอาจจะตกลงกันได้
นอกจากนี้ ในประเทศก็มีความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลในทางที่ดีขึ้น แต่ยังต้องรอดู MOU ในวันจันทร์หน้าจะเป็นอย่างไร โดยตลาดได้รับแรงซื้อกลับหุ้นในกลุ่มธนาคาร พลังงาน และโรงไฟฟ้า แนวโน้มวันพรุ่งนี้ (19 พ.ค.) ตลาดยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย โดยมีแนวรับ 1,520 จุด แนวต้าน 1,540 จุด
ด้านนายภาดล วรรณรัตน์ กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน และนักวิเคราะห์บล.หยวนต้า(ประเทศไทย)วิเคราะนโยบายของพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยที่เหมือนกัน จะส่งผลดีและผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจต่างๆ อย่างไร โดยเฉพาะเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงในช่วง 5 ปี การลดค่าครองชีพ เช่น ค่าไฟ การช่วยลดภาระผ่อนซื้อบ้านเดือนละ 2,500 บาท การสนับสนุนภาคเกษตรสมัยใหม่ โดยมองว่าหุ้นธนาคารพาณิชย์และบัตรเครดิตจะได้รับผลดี เพิ่มกำลังใช้เงินและลด NPLs แนะนำหุ้นแบงก์ใหญ่ ทั้ง KBANK,SCB,BBL ที่มีราคาถูกลงด้วย
ส่วนหุ้นเช่าซื้อ ไม่แน่ใจ ต้องติดตามดูว่า อัตราผลตอบแทน(Yield) จะได้รับผลกระทบหรือไม่ หากรัฐต้องการให้ช่วยลดดอกเบี้ยให้กับลูกค้า
ด้านอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลดี เพราะอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ เช่นค่าแรงขั้นต่ำ ช่วยค่าผ่อนบ้านเดือนละ 2,500 บาท แต่บ้านระดับบน ช่วยไม่มาก อาทิ LH,SC ต้องเน้นอสังหาฯที่ขายบ้านราคา 3-5 ล้านบาทได้ผลดี หุ้นเด่นเชียร์ SPALI ที่ประสบความสำเร็จในการปิดการขายบ้าน และราคาหุ้นปรับตัวลงไปมาก ปัจจุบันเทรดที่ P/E ต่ำแค่ 5 เท่า กำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวด้วย รวมถึงหุ้น LALIN, AP ก็น่าสนใจ
สำหรับค้าปลีกและค้าส่ง ค้าส่งดีกว่า อาทิ MAKRO,BJC จากการมีคนมาซื้อของไปขายต่อ ซึ่งMAKRO กำไรดีส่งผลต่อเนื่องถึง CPALL ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ประมาณ 35% ที่ราคาร่วงลงไปมากเกินไป รวมถึงหุ้นบรรจุภัณฑ์ได้ประโยชน์ด้วย
ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แม้เป็นแผนระยะยาว หากปรับขึ้นจริง มีผลกระทบมากกับภาคการผลิต เช่น อิเล็กทรอกนิส์ มาร์จิ้นจะแคบลง เพราะธุรกิจปรับราคาขายไม่ได้ และรับเหมาก่อสร้างก็มีผลด้วย ส่วนธุรกิจสื่อสาร กระทบไม่มาก รวมถึงพลังงานด้วย ยกเว้นกลุ่มกลางน้ำ PTTGC,PTT,IRPC,TOP
ด้านบล.ทรีนีตี้ตัดสินปรับลดดัชนีเหมาะสมของปีนี้ลง หลังสมมุติฐานประมาณการกำไรต่อหุ้นของตลาดถูกปรับลงอย่างรวดเร็วในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดกำไรต่อหุ้นปี 2567 ใหม่ลดลงจากเดิมที่ 115 บาท เป็น 113 บาท ซึ่งยังสูงกว่าคาดการณ์ปัจจุบันของ Bloomberg consensus ที่ต่ำกว่าระดับ 110 บาทลงมาแล ้า
ทั้งนี้ กรณีดีสุด (Bull case) เคยให้ไว้ 1630 เหลือ 1600 กรณีฐาน(Base case) จาก 1520 เป็น 1490 และกรณีแย่ (Bear case) ลดจาก 1410 เหลือ 1390