HoonSmart.com>>ส.อ.ท. เปิด 9 อุตสาหกรรมความเชื่อมั่นเพิ่มเกินระดับ 100 ผู้ผลิตไฟฟ้า อาหาร เครื่องดื่ม นำโด่ง ผลจากวิกฤตอาหาร กำลังการบริโภคของโลกฟื้น บาทอ่อนหนุน
ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ และนายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมเปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 88.5 ปรับตัวลดลงจาก 90.3 ในเดือนเมษายน 2567 โดยปรับตัวลดลงทั้งยอดขาย ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ
อย่างไรก็ตาม พบว่า 9 ใน 18 อุตสาหกรรมที่ความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น สูงกว่าระดับ 100 นำโดยกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้า อาหารและเครื่องดื่ม ยา เครื่องสำอาง ผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ เครื่องปรับอากาศและทำความเย็น การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ เยื่อและกระดาษ ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตความมั่นคงทางด้านอาหารในหลายประเทศ ส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าอาหารของไทย และยังได้รับอานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ที่ 36 – 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนครื่องนุ่งห่ม รองเท้า หนังและผลิตภัณฑ์หนัง รวมทั้งการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการสินค้าในช่วงเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2567
ขณะที่ความเชื่อมั่นในอุตสหกรรมเก่ายังไม่ฟื้นและหวั่นว่าจะมีการปรับลดลงต่อเนื่อง เพราะกำลังซื้อในประเทศที่ยังเปราะบาง เนื่องจากเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนรวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงและสัดส่วนหนี้เสีย (NPLs) ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้การบริโภคสินค้าชะลอลง
ขณะที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต รวมถึงอัตราค่าระวางเรือที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนเรือขนส่งสินค้าและตู้คอนเทนเนอร์ที่หมุนเวียนไม่ทัน เนื่องจากระยะเวลาขนส่งที่นานขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ตลอดจนผู้ประกอบการยังได้รับผลกระทบจากสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศที่เข้ามาแข่งขันในไทยและอาเซียนมากขึ้น ทำให้สินค้าไทยแข่งขันได้ยาก รวมถึงสภาพอากาศที่แปรปรวนจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ส่งผลกระทบต่อสินค้าเกษตร
ขณะที่ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 95.7 ปรับตัวลดลง จาก 98.3 ในเดือนเมษายน 2567 โดยมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหา Geopolitics ในตะวันออกกลาง ส่งผลให้เกิดความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก และเกิดความล่าช้าในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนรอบใหม่ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการ SMEs มีความกังวลต่อนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ หวังว่าการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ปี 2567 ในช่วงที่เหลือของปี มาตรการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวในหลายประเทศ และมาตรการภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง ตลอดจนการสนับสนุนให้อบรมสัมมนาจังหวัดเมืองรอง จะกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงโลว์ซีซั่นและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมให้ดีขึ้นได้
ทั้งนี้ ทาง ส.อ.ท. มองว่า รัฐควรออกมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันและก๊าซ ทำการเร่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเรือขนส่งสินค้าและตู้คอนเทนเนอร์ที่หมุนเวียนไม่ทันเนื่องจากระยะเวลาขนส่งที่นานขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อช่วยพัฒนาและต่อยอดธุรกิจ รวมถึงปรับปรุงเงื่อนไขและกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ตลอดจนการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้
และออกมาตรการส่งเสริมการซื้อสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์ของไทย โดยเฉพาะอาหารไทย เครื่องนุ่งห่มและสินค้ากีฬา เป็นต้น