ดาวโจนส์ปิดลบ 35 จุด เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยครั้งเดียว เงินเฟ้อต่ำกว่าคาด

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 35 จุด มติเฟดคงดอกเบี้ยตามคาด ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยครั้งเดียว เงินเฟ้อต่ำกว่าคาด ด้านดัชนี S&P 500, Nasdaq นิวไฮต่อเนื่อง ด้านราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 12มิถุนายน 2567 ปิดที่ 38,712.21 จุด ลดลง 35.21 จุด หรือ -0.09% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ แม้และข้อมูลเงินเฟ้อในเดือนพฤษภาคมชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันด้านราคาที่ผ่อนคลายลง

ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และปิดเหนือ 5,400 เป็นครั้งแรก และดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,421.03 จุด เพิ่มขึ้น 45.71 จุด, +0.85%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,608.44 จุด เพิ่มขึ้น 264.89 จุด, +1.53%

ในช่วงแรกตลาดปรับตัวขึ้น ทั้งสามดัชนีหลักปรับตัวขึ้น หลังการรายงานเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ทำให้มีมุมมองในทางบวกต่อแถลงการณ์ของเฟด และคาดว่าการแถลงข่าวของประธานเฟดนาย เจอโรม พาวเวลล์ อาจมีทิศทางเชิงบวกมากกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก

ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่า 3.4% ที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไป ไม่เปลี่ยนแปลง ต่ำกว่า 0.1% ที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่า 3.5% ที่นักวิเคราะห์ เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐาน เพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่า 0.3% ที่นักวิเคราะห์คาด

หลังจากการรายงานข้อมูล FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่าตลาดให้น้ำหนักประมาณ 69% ที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในการประชุมเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นจากประมาณ 53% เมื่อวันก่อน

การซื้อขายผันผวนหลังที่ประชุมเฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25%-5.5% ตามคาด และยังระบุด้วยว่ามีความคืบหน้าในด้านอัตราเงินเฟ้อ โดยชี้ว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีความคืบหน้าเล็กน้อยไปสู่เป้าหมายเงินเฟ้อของคณะกรรมการที่ 2% แต่คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 2.8% ในสิ้นปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ในเดือนมีนาคม

อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ดอกเบี้ย(Dot Plot)ดอกเบี้ยล่าสุดของเฟด แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญานการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ ซึ่งลดลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์ไว้สามครั้งในต้นปี 2567

ในการแถลงข่าวภายหลังการตัดสินใจ ประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ ยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อได้ผ่อนคลายลงอย่างมากแต่ยังคงสูงเกินไป และความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากความคืบหน้าช้ากว่าที่คาดในการทำให้การเติบโตของราคาลดลงเหลือ 2% ตามเป้าหมายของเฟด

รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนของ Baird กล่าวว่า น่าผิดหวังเล็กน้อยที่เฟดยังคงความเข้มงวดของนโยบาย โดยเฉพาะในวันเดียวกันที่มีการรายงานอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนตัวที่สุดในรอบสองสามปี แต่ประเด็นหลักก็คือตลาดคาดไว้ว่าเฟดจะปรับ dot plot จากการปรับลด 3 ครั้งเป็น 2 ครั้ง แต่ก็ลดจากการลด 3 ครั้งไปเป็นการลดเพียงครั้งเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก

หุ้นแอปเปิ้ล ปิดบวก 2.9% ในระหว่างวัน มูลค่าตามราคาตลาด (market capitalisation) ของแอปเปิ้ลแซงหน้าบริษัทไมโครซอฟต์ หลังบริษัทเปิดตัว Apple Intelligence ซึ่งเป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ตลาดยุโรปปิดบวก จากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย หลังจากการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐเดือนพฤษภาคมที่ชะลอตัวลง ทำให้มีความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเริ่มลดดอกเบี้ย

ดัชนี STOXX 600 บวก 1.2% ปรับขึ้นภายในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม

เทรดเดอร์มองว่ามีโอกาสมากขึ้นที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์นำการปรับขึ้นโดยเพิ่มขึ้น 2.7% กลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 2.4%

หุ้นรถยนต์ทั้ง โฟลค์สวาเกน และบีเอ็มดับเบิ้ลยูต่างลดลง 1% จากความกังวลว่าจีนจะตอบโต้ยุโรป ที่ประกาศจะขึ้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าจากจีน หุ้นรถหรู ปอร์เช จากเยอรมนีลดลง 7.2% จากการขึ้นเครื่องหมาย XD

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 522.89 จุด เพิ่มขึ้น 5.60 จุด, +1.08%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,215.48 จุด เพิ่มขึ้น 67.67 จุด, +0.83%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,864.70 จุด เพิ่มขึ้น 75.49 จุด, +0.97%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,630.86 จุด เพิ่มขึ้น 260.92 จุด, +1.42%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 78.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 82.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล