เงินเฟ้อเม.ย.โต 2.67% ต่ำสุด 16 เดือน คาดพ.ค.ไม่เกิน 2%

HoonSmart.com>>กระทรวงพาณิชย์เผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.67%ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 จากราคาน้ำมัน-ราคาสินค้าอาหารบางตัวลดลง รวม 4 เดือนแรกปี 66 เพิ่มขึ้น 3.58% คาดพ.ค.เพิ่มขึ้นไม่ถึง 2% ยืนเป้าทั้งปีเฉลี่ย 2%

กระทรวงพาณิชย์แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรือเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน เม.ย.2566 เพิ่มขึ้น 2.67% จากตลาดคาดที่ 2.7% โดยชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือน 4 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันลดลง และราคาสินค้าหมวดอาหารบางตัวชะลอลง รวมทั้งฐานในเดือน เม.ย.2565 อยู่ในระดับที่สูงแล้วจากช่วงก่อนหน้านั้น ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เฉลี่ย 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.) เพิ่มขึ้น 3.58%

ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) หรือเงินเฟ้อพื้นฐาน ในเดือนเม.ย.66 เพิ่มขึ้น 1.66% ชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เฉลี่ย 4 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 2.09%

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า เงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเม.ย.2566 ถือว่าอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน นับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2564 มาจากการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และราคาสินค้าในหมวดอาหารที่ชะลอตัวลง ประกอบกับฐานที่สูงในปีก่อน (เม.ย.6255) โดยราคาสินค้า 58 รายการปรับตัวลดลงเทียบกับเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง, น้ำมันพืช, เนื้อสุกร, ผักกาดขาว, ผักบุ้ง, พริกสด เป็นต้น ขณะที่สินค้า 334 รายการปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น ค่ากระแสไฟฟ้า, กับข้าวสำเร็จรูป, ก๊าซหุงต้ม, ข้าวสารเจ้า, กระเทียม, ไก่สด, ข้าวราดแกง เป็นต้น

สำหรับอัตราเงินเฟ้อของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ (ณ เดือนมี.ค.2566) พบว่า เงินเฟ้อไทยต่ำเป็นอันดับที่ 14 จาก 133 เขตเศรษฐกิจที่มีการประกาศตัวเลข ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดีกว่าหลายเขตเศรษฐกิจ เช่น สหรัฐอเมริกา อิตาลี สหราชอาณาจักร เม็กซิโก อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ และอยู่ระดับต่ำที่สุดในอาเซียน จาก 7 ประเทศที่ประกาศตัวเลข ทั้งลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม

นายพูนพงษ์ กล่าวถึงเม็ดเงินที่จะเข้ามาในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งว่า ทาง สนค.ได้นำปัจจัยเรื่องเม็ดเงินช่วงหาเสียงเลือกตั้งรวมไว้ในการคำนวณเงินเฟ้อแล้ว และหากจะมีปัจจัยอื่นจากการเลือกตั้งที่นอกเหนือจากนี้คาดว่าจะไม่มีผลต่อเงินเฟ้อมากนัก

ด้านนายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการ สนค. กล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อเดือนพ.ค.นี้ มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง และอาจจะอยู่ในระดับไม่เกิน 2% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอยู่ในระดับต่ำกว่าพ.ค.2565 ซึ่งอยู่ที่ 107.68 ดอลลาร์/บาร์เรล นอกจากนี้ สินค้าบางรายการชะลอตัวลงหรืออยู่ในระดับที่ทรงตัว รวมทั้งมีปัจจัยจากฐานที่สูง ซึ่งในเดือนพ.ค.65 อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นไปถึง 7.1%

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เงินเฟ้อไม่ต่ำตามที่คาดไว้ เช่น ราคาก๊าซหุงต้มที่ยังอยู่ในระดับสูง ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งส่งผลต่อราคาพืชผลทางการเกษตร และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากภาคการท่องเที่ยว ที่ส่งผลต่ออุปสงค์ และราคาสินค้าและบริการ

“คาดว่าเงินเฟ้อเดือนพ.ค.อาจจะอยู่ในระดับ 1% กว่าๆ ไม่เกิน 2% อาจจะต่ำสุดในรอบ 20 เดือนจากที่เห็นล่าสุดเมื่อเดือน ก.ย.2564 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.68% ส่วนในไตรมาสที่ 2 เฉลี่ยไม่เกิน 3% โดยยังคงคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปในปี 2566ไว้ที่เดิมระดับ 1.7-2.7%หรือเฉลี่ย 2.2%” นายวิชานันกล่าว