ดาวโจนส์ปิดบวก 96 จุด ดัชนี S&P500-Nasdaq ปิดนิวไฮ

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 96 จุด , S&P500-Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่ แรงหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี Nvidia ปรับตัวนำกลุ่ม หลังข้อมูลแรงงานอ่อนแอ หวังเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยปลายปีนี้ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับเพิ่มขึ้น ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 5มิถุนายน 2567 ปิดที่ 38,807.33 จุด เพิ่มขึ้น 96.04 จุด หรือ +0.25% ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่ จากการที่หุ้น Nvidia นำการปรับขึ้นในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ และจากสัญญานการชะลอตัวของอุปสงค์ในตลาดแรงงานและของเศรษฐกิจทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าธนาคารกลงสหรัฐ(เฟด)อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,354.03 จุด เพิ่มขึ้น 62.69 จุด, +1.18% หลังจากแตะระดับ all-time high ที่ 5,354.16 ระหว่างวัน
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,187.90 จุด เพิ่มขึ้น 330.86 จุด, +1.96% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำการปรับขึ้นอย่างชัดเจน โดยหุ้น Nvidia เพิ่มขึ้นกว่า 5% ขณะที่มูลค่าตลาดของบริษัททะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ขณะเดียวกัน มูลค่าตลาดของ Apple ก็เพิ่มขึ้นเหนือ 3 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม เมื่อปิดตลาดมูลค่าตลาดของ Nvidia สูงกว่ามูลค่าตลาดของ Apple และกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดเป็นอันดับสองในตลาดหุ้นสหรัฐฯ

การปรับขึ้นของตลาดยังมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ลดลงหลังการรายงานข้อมูลตลาดแรงงาน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ 4.28% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) รายงานว่า การจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นเพียง 152,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และต่ำกว่า 175,000 ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาด

ข้อมูล ADP นับเป็นสัญญาณล่าสุดของความอ่อนแอในตลาดแรงงาน ซึ่งนักลงทุนหวังว่าจะเป็นข้อมูลเพียงพอต่อเฟดที่จะลดอัตราดอกเบี้ย

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 65% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 50% ในการสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

โซลิตา มาเซลลี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ UBS Global Wealth Managementระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดว่า S&P 500 จะแตะระดับ 5,500 ภายในสิ้นปีจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด การเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มการเติบของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

UBS คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้น

นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี และข้อมูลการจ้างงานประจำเดือนพฤษภาคมในวันศุกร์

หุ้นฮิวเล็ตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรซ์ พุ่ง 10.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 3 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ตลาดยุโรปปิดบวก นำโดยหุ้นเทคโนโลยี รวมถึงASMLบริษัทผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์เนเธอร์แลนด์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสบดี

กลุ่มเทคโนโลยีนำการปรับขึ้นโดยบวก 3.7% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นในวันเดียวที่ดีที่สุดในรอบกว่าสี่เดือน

หุ้น ASML เพิ่มขึ้น 8.1% หลังจากรายงานนักวิเคราะห์ของ Jefferies อ้างถึงความคิดเห็นจาก CFO ที่บ่งชี้มุมมองทางบวกต่อคำสั่งซื้อที่มาจากTSMC ลูกค้ารายใหญ่ ในไตรมาสต่อ ๆ ไป

หุ้น BE Semiconductor Industries และ ASMI ต่างเพิ่มขึ้น 4.7%

นักลงทุนจับตาการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของ ECB ในวันพฤหัสบดี ซึ่งคาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% จุดจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปัจจุบันที่ 4%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่ ผลสำรวจบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนขยายตัวในอัตราเร็วที่สุดในรอบ 1 ปีในเดือนพฤษภาคม ขณะที่การขยายตัวของภาคบริการแซงหน้าการหดตัวในภาคการผลิต

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 521.23 จุด เพิ่มขึ้น 4.18 จุด, +0.81%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,246.95 จุด เพิ่มขึ้น 14.91 จุด, +0.18%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,006.57 จุด เพิ่มขึ้น 68.67 จุด, +0.87%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,575.94 จุด เพิ่มขึ้น 170.30 จุด หรือ +0.93%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.12% ปิดที่ 74.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.15% ปิดที่ 78.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล