HoonSmart.com>>”จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” (GRAMMY) เร่งเพิ่มมูลค่าบริษัท ตัดขายหุ้น จีเอ็มเอ็ม มิวสิค 10% มูลค่ารวม 2,570 ล้านบาท จากมูลค่ากิจการสูงถึง 25,700 ล้านบาท ให้กับ Black Serenade Investment ของ“เทนเซ็นต์ มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป” ผู้นำธุรกิจดนตรีและความบันเทิงในเครือของเทนเซ็นต์ และ “เทนเซ็นต์ โฮลดิ้ง ลิมิเตท” ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี เป็นพันธมิตรระดับโลก โดยชำระเป็นหุ้นของ JOOX Thailand 30% ต่อยอดความแข็งแกร่งให้กับแผน Spin-Off ส่งเสริมการเติบโตของ New Music Economy ไทย ผ่านการขยายธุรกิจ กระตุ้นการเติบโต แลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับพันธมิตรระดับโลก ลงทุนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเพลงในรูปแบบใหม่ ตอบรับอนาคตของอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค (GMM Music) กล่าวว่า ในยุค Music Second Wave อุตสาหกรรมเพลงกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งยอดรายได้ทะลุจุดสูงสุดเดิมไปแล้ว จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ได้วางกลยุทธ์รองรับการเติบโต ควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้กับอุตสาหกรรมเพลงไทยอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญ คือการขยายความร่วมมือกับผู้นำธุรกิจเพลงชั้นนำในต่างประเทศที่เล็งเห็นศักยภาพของอุตสาหกรรมเพลงไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ บริษัทแม่อย่างเทนเซ็นต์ และ เทนเซ็นต์ มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป จะเข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์ในหุ้นของ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค สัดส่วนหุ้น 10% คิดเป็นมูลค่า 2,570 ล้านบาท และจะสร้างมูลค่าบริษัทสูงถึง 25,700 ล้านบาท โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแผน Spin-Off ของบริษัทฯ ที่ต้องการสร้าง New Music Economy ของไทยให้เติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืน มีแผนความร่วมมือที่จะขยายโอกาสทางธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม โดยประเทศจีนเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายที่มีทั้งศักยภาพและโอกาสที่ใหญ่มาก
การเข้าร่วมลงทุนในครั้งนี้คือ “สะพานขนาดใหญ่” ของอุตสาหกรรมเพลง ที่จะลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ตลอดจนสร้างชื่อเสียงในระดับสากลและนำมา ซึ่งความเจริญเติบโตทั้งในด้านผลประกอบการ และสร้างเสถียรภาพทางการเงินที่มั่นคงยิ่งขึ้น ไปจนถึงยกระดับอุตสาหกรรมเพลงไทยในภาพรวม
นายฟ้าใหม่ ดํารงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค กล่าวว่า แผนการร่วมลงทุนเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ เทนเซ็นต์ จะเข้ามาช่วยเร่งอัตราการเติบโตของ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค อย่างมีนัยสำคัญ เพื่อให้พร้อมเปิดรับโอกาสทางธุรกิจในยุคใหม่ รวมถึงช่วยเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทฯ สู่การเป็น The Next Asia’s Dragon ในตลาดโลก ต้องการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ด้านการขยายธุรกิจเพลงและธุรกิจดิจิทัล ที่เป็นแรงผลักดันสำคัญในการเติบโตของอุตสาหกรรมเพลงยุคใหม่
ตลอดจนการต่อยอดธุรกิจเพลงสู่ตลาดโลก ด้วยการนำพาศิลปินของ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค เข้าสู่ตลาดเอเชีย และ ตลาดนานาชาติ โดยอาศัยธุรกิจบันเทิงของเทนเซ็นต์ที่มีความร่วมมือกับบริษัทต่างๆ ทั่วโลก และจะร่วมกันยกระดับคุณภาพเพลงไทยในด้านการผลิต ร่วมศึกษาโอกาสการลงทุน ในการสร้างผลงานเพลงและพัฒนาศิลปิน รวมถึงการจัดงานคอนเสิร์ตและมิวสิคเฟสติวัลร่วมกัน เพื่อผลักดันศักยภาพธุรกิจเพลงไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล และที่สำคัญยังตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าบริษัทฯ ด้วยการแลกเปลี่ยนทรัพยากรและองค์ความรู้เชิงลึก ทั้งในด้านการตลาดและการขาย รวมไปถึงเทคโนโลยีการบริหารจัดการลูกค้า และ การพัฒนานวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนสู่อนาคต และสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยพร้อมร่วมกันผลักดันแผนการ IPO ของบริษัทให้ประสบผลสำเร็จ การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับจีเอ็มเอ็ม มิวสิค ที่จะสร้างความแข็งแกร่งและความยั่งยืนสู่อนาคต อย่างแท้จริง
กลุ่มผู้ซื้อจะชําระด้วยเงินสด และหุ้น 30% ของ Joox Thailand (Hong Kong) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเทนเซ็นต์ มิวสิคฯ ที่ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มฟังเพลงออนไลน์ JOOX เพื่อกลุ่มผู้ใช้บริการที่มาจากประเทศไทย ต่อยอดธุรกิจเทคโนโลยีและสนับสนุนตลาดเพลงไทยให้เติบโตสอดคล้องกับตลาดเพลงโลกผ่าน Streaming Platform ซึ่งเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนอันสำคัญ โดยบริษัทร่วมทุนนี้จะผสานจุดแข็งทางด้านเทคโนโลยีจากความเชี่ยวชาญของ เทนเซ็นต์ ที่จะมาพัฒนา Platform ให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้ฟังยุคใหม่มากยิ่งขึ้น ร่วมกับการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหาร Content แบบครบวงจร จากความเชี่ยวชาญของ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ตลอดจนการทำงานกับค่ายเพลงพันธมิตรทุกค่ายอย่างไร้ข้อจำกัด
ความร่วมมือยังจะสร้างโอกาสการหารายได้ใหม่ จากวงจรแฟนเพลง (Fandom Economy) ด้วยการสร้างกิจกรรมและช่องทางการมีส่วนร่วมกับ ศิลปิน แฟนด้อม ทั้งไทย จีน และต่างชาติเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ในการเดินหน้าสู่แผนการเสนอขาย IPO ในอนาคตอันใกล้