บล.กสิกรฯ มองหุ้นไม่หลุด 1,300 สัปดาห์หน้าให้แนวรับ 1,320

HoonSmart.com>> บล.กสิกรไทยแนะจับตาฟันด์โฟลว์ หลังจากปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ตามแรงขายของต่างชาติถึง11,765 ล้านบาท ส่วนค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 36.50-37.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (3-7 มิ.ย.2567) ว่า ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,335 และ 1,320 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,355 และ 1,370 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพ.ค. ของไทย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขนำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย. ดัชนี PMI และ ISM ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราว่างงานเดือนพ.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม ECB ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2567 ของยูโรโซน ดัชนี PMI เดือนพ.ค. ของยูโรโซน ญี่ปุ่น และจีน ตลอดจนตัวเลขนำเข้าและส่งออกเดือนพ.ค. ของจีน

ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากยังคงรอปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นตลาด ก่อนจะร่วงลงในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ตามทิศทางหุ้นภูมิภาคจากความกังวลว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงเป็นเวลานาน

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยลบจากแรงขายเพื่อปรับลดความเสี่ยงก่อนมี MSCI rebalance ในช่วงสิ้นเดือน และจากความกังวลเกี่ยวกับประเด็นการเมืองในประเทศ กระตุ้นแรงขายหุ้นบิ๊กแคปในหลายอุตสาหกรรม นำโดยอสังหาริมทรัพย์ วัสดุก่อสร้าง เทคโนโลยี และค้าปลีก

ดัชนีหุ้นไทยเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องในช่วงปลายสัปดาห์ นำโดย หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ พลังงานและอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ นักลงทุนต่างชาติยังคงมีสถานะขายสุทธิต่อเนื่องในสัปดาห์นี้

ในวันศุกร์ที่ 31 พ.ค. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,345.66 จุด ลดลง 1.38% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 46,273.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.45% ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.56% มาปิดที่ระดับ 379.92 จุด

ส่วนเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (3-7 มิ.ย.2567) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 36.50-37.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ

หลังจากแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 36.98 บาทต่อดอลลาร์ฯ แต่ฟื้นตัวกลับมาบางส่วน หลังแรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด

เงินบาทปรับตัวในกรอบแคบช่วงต้นสัปดาห์เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ๆ มากระตุ้น อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยอ่อนค่าในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยมีปัจจัยลบจากสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของต่างชาติในช่วงกลางสัปดาห์ การย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก และการอ่อนค่าของสกุลเงินเอเชียบางส่วน

นอกจากนี้เงินดอลลาร์ฯ ยังแข็งค่าตามการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดหนุนมุมมองของตลาดว่า เฟดอาจยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับสูงเป็นเวลานาน อย่างไรก็ดี แรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงบางส่วน หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด อาทิ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2567 และข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ประกอบกับน่าจะมีแรงขายเพื่อปรับโพสิชันก่อนตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่คำนวณจาก PCE/Core Price Indices

ในวันศุกร์ที่ 31 พ.ค. 2567 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 36.78 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 36.69 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (24 พ.ค. 2567)

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 27-31 พ.ค. 2567 นั้นขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 11,765 ล้านบาท และ 1,494 ล้านบาท ตามลำดับ