HoonSmart.com>>”เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP)” โชว์กำไรไตรมาส1/66 ที่ 1,220 ล้านบาท ลดลง 26% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 171% จากไตมาสที่ 4/65 รายได้จากการขาย 33,729 ล้านบาท เติบโต 1% ทั้งตลาดในประเทศและส่งออก ต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งลดลง EBITDA Margin ที่ 13% อัตรากำไรสุทธิ 4% บล.เอเซียพลัสเผยกำไรปกติ 1.18 พันล้านบาท สูงกว่าที่คาด 9% SCGP ร่วมทุน SFLEX เข้าลงทุนโรงกล่องในเวียดนาม จะถือหุ้น 70% ใช้เงินลงทุน 1.5 พันล้านบาท
บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) เปิดเผยผลงานไตรมาสแรกปี 2566 มีกำไรสุทธิ 1,220 ล้านบาท ลดลง 26% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) 1,658 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 171% จากไตรมาสที่ 4/2565 (QoQ)
ในไตรมาสที่ 1/2566 SCGP มีรายได้จากการขายจำนวน 33,729 ล้านบาท ลดลง 8% YoY แต่เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับ QoQ
รายได้จากการขายที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีสาเหตุหลักมาจาก (1) ผลกระทบต่อเนื่องจากนโยบายล็อกดาวน์ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิดในปีก่อนของประเทศจีน ทำให้ความต้องการกระดาษบรรจุภัณฑ์โดยรวมลดลง ซึ่งส่งผลต่อปริมาณการขายและราคาขายที่ลดลงตามไปด้วย (2) อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคหดตัวลง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่ไม่จำเป็น
สำหรับรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขายในกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรและธุรกิจเยื่อและกระดาษ จากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศต่างๆ พร้อมทั้งการส่งออกกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่มากขึ้นหลังจากการเปิดประเทศของจีน
ไตรมาส1/2566 บริษัทฯ มี EBITDA 4,471 ล้านบาท ลดลง 9% YoY แต่เพิ่มขึ้น 26% QoQ โดยมี EBITDA Margin ที่ 13% อัตรากำไรสุทธิที่ 4%
กำไรที่ลดลง YoY มาจากปริมาณการขายและราคาขายที่ลดลง เนื่องจากความต้องการบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคชะลอตัว ในขณะที่กำไรจากไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้น มีสาเหตุหลักจากต้นทุนที่ปรับตัวลงโดยเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งพร้อมกับการฟื้นตัวของปริมาณการขายกระดาษบรรจุภัณฑ์สำหรับตลาดทั้งในประเทศและส่งออก
บล.เอเซียพลัสวิเคราะผลงาน SCGP กำไรปกติ ที่ 1.18 พันล้านบาท สูงกว่าที่คาด 9% กำไรเพิ่มขึ้น 8%QoQ เป็นภาพการฟื้นตัวตามที่เราและตลาดมองไว้
สาเหตุที่กำไรออกมาดีกว่าคาด จาก GPM ที่สูงกว่าที่เราคาด อย่างไรก็ตาม รายได้ค่อนข้างทรงตัวจากไตรมาสก่อน
นอกจากนี้ SCGP มีการประกาศเข้าลงทุนโรงกล่องในเวียดนามร่วมกับ SFLEX โดย SCGP จะถือหุ้น 70% ใช้เงินลงทุน 1.5 พันล้านบาท บริษัทนี้มีรายได้ประมาณ 1.5 พันล้านบาท และกำไร 135 ล้านบาทในปี 2565 คิดเป็น 2% ของประมาณการกำไรของ SCGP ในปี 2566 คาดว่าจะเข้าซื้อได้ในไตรมาส 3/2566 โดยรวมมองว่าไม่ได้มีนัยสำคัญมากนักต่อกำไร แต่เป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ดีของอุตสาหกรรม เพราะครั้งล่าสุดที่ SCGP ประกาศเข้าซื้อกิจการคือเดือน พ.ย. 2565
ด้านราคาห้น SCGP วันที่ 25 เม.ย.2566 ระหว่างวันลงไปต่ำสุด 41.50 บาท ก่อนตีกลับในช่วงบ่าย ยืนบริเวณ 43 บาท รับข่าวกำไรไตรมาสแรกออกมาดีเกินคาด สะท้อนการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดไตรมาส 4/2565ที่ผ่านมา