ดาวโจนส์ปิดลบ 10 จุด จับตาผลการดำเนินงานกลุ่มแบงก์

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 10 จุด ท่ามกลางการซื้อขายผันผวน จากการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะบียนที่มากขึ้น นักลงทุนยังจับตาผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารเพื่อหานัยต่อเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้น 3 เซนต์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ส่วนใหญ่ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 18 เมษายน 2566 ที่ 33,976.63 จุด ลดลง 10.55 จุด หรือ 0.03% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน จากการรายงานผลประกอบ การของบริษัทจดทะบียนที่มากขึ้น ซึ่งนักลงทุนยังจับตาผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารเพื่อหานัยต่อเศรษฐกิจ

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,154.87 จุด เพิ่มขึ้น 3.55 จุด, +0.09%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,153.41 จุด ลดลง 4.31 จุด, -0.04%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับลดลงมาที่ 3.579% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีปรับตัวขึ้นมาที่ 4.218%

นักลงทุนประเมินผลการดำเนินงานที่รายงานเมื่อวานนี้ ซึ่งแม้สภาวะเศรษฐกิจจะไม่สดใสแต่ แบงก์ ออฟ อเมริกามีผลการดำเนินงานดีกว่าคาด จากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 0.6% ส่วนโกลด์แมน แซคส์รายงานผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด ส่วนหนึ่งจากการขาดทุนจำนวน 470 ล้านดอลลาร์จากการขายพอร์ตเงินกู้ มาร์กัส ราคาหุ้นปิดลดลง 0.8% ดีขึ้นจากที่ร่วงลง 3% ในช่วงเช้า

หุ้นM&T Bank Corporation บวก 7.8% จากผลการดำเนินงานดีกว่าคาด แต่หุ้นState Street Corporation ลดลงกว่า 9% หลังรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 3% ในไตรมาสแรก.

หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ลดลง 2.8% แม้ผลการดำเนินงานดีกว่าคาดและปรับคาดการณ์แนวโน้มของทั้งปี 2023 ขึ้น แต่บริษัทกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการดำเนินงานที่อาจสูงขึ้นในปีนี้

นักลงทุนจับตาการรายงานผลการดำเนินงานของFirst Horizon,Western Alliance , United Airlines และ Netflix หลังปิดตลาด ซึ่งราคาหุ้น Netflix ปิดบวก 0.29% หลังประกาศขายธุรกิจให้เช่า DVD

แม้มีการคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนจะลดลงจากเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่จากที่รายงานมาก็ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี อย่างไรก็ตามนักลงทุนมองว่าแม้ผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาดนั้น ก็ดีกว่าไม่มาก และไม่สำคัญเท่ากับการเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ตลาดจับตาอยู่

เอ็ด โมยา จาก Oanda กล่าวว่า แม้ตลาดกังวลต่อผลการดำเนินงาน แต่ความวิตกต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดก็ยังไม่หายไป

เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่เฟดจำนวนหนึ่งได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับดอกเบี้ย โดยนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ให้สัมภาษณ์รายการ Squawk on the Street สถานโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี วานนี้ว่า เขาคาดว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ก็พอเพื่อที่จะดูว่าผลการส่งต่อของนโยบายต่อเศรษฐกิจ หลังจากนั้นจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับนั้นสักระยะ

ด้านเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์ หลุยส์กล่าวว่า ยังต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่นายทอม บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ ซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมการ FOMC ที่ไม่มีสิทธิโหวตกล่าวว่า เขาต้องการเห็นหลักฐานที่ชัดเจนมากว่านี้ว่าเงินเฟ้อกำลังกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย และตลาดแรงงานคลายความร้อนแรง

ในสัปดาห์นี้เจ้าหน้าที่เฟดอีกหลายรายที่มีกำหนดให้ความเห็น ซึ่งนักลงทุนคอยดูว่าจะมีท่าทีที่เหมือนกันหรือไม่ก่อนหน้าช่วงsilent period ที่เริ่มขึ้นในวันเสาร์

ตัวชี้วัดจาก CME Group พบว่า ตลาดให้น้ำหนัก 86% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนพฤษภาคม

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่รายงานเมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์รายงาน การเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนมีนาคมลดลง 0.8% สู่ระดับ 1.42 ล้านยูนิต สูงกว่า 1.40 ล้านยูนิตที่นักวิเคราะห์คาด

นักลงทุนยังจับตาการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเมษายน

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวก นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนการที่ 2.1% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 หลังจีนรายงานเศรษฐกิจโต 4.5% ซึ่งดีกว่าคาด ขณะที่นักลงทุนยังประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐผ่านการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดสหรัฐ

ส่วนหุ้นที่มีธุรกิจในจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งกลุ่มเหมืองแร่บวก 1.4% หุ้นสินค้าหรูทั้ง LVMH จาก Pernod Ricard และ Hermes International ต่างบวก 0.5% และ 1.6% ตามลำดับฃ

หุ้น easyJet ในอังกฤษบวก 1.6% หลังคาดว่าผลการดำเนินงานทั้งปีดีกว่าคาด

หุ้น Ericsson ในสวีเดนลดลง 8.6% หลังรายงานยอดขายไตรมาสแรกลดลงและผลการดำเนินงานทั้งปีลดลง

อังกฤษรายงานอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และค่าจ้างเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัวที่น้อยกว่าคาด โดยค่าจ้างในภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 6.9% และเพิ่มขึ้น 5.3% ในภาครัฐ

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 468.62 จุด เพิ่มขึ้น 1.78 จุด,+0.38%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,909.44 จุด เพิ่มขึ้น 29.93 จุด, +0.38%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,533.63 จุด เพิ่มขึ้น 35.45 จุด, +0.47%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,882.67 จุด เพิ่มขึ้น 93.14 จุด, +0.59%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 80.86ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 84.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล