HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดลบ 4.43 จุด รับแรงกดดันจากนอกประเทศ ขณะที่ปัจจัยในประเทศเกื้อนหนุน ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,024.21 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 502.68 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าผันผวนในลักษณะไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,570-1,560 แนวต้าน 1,600-1,610 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 12 เม.ย.66 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,592.67 จุด ลดลง 4.43 จุด หรือ -0.28% มูลค่าซื้อขาย 44,756.28 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,598.27 จุด ต่ำสุด 1,580.71 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,024.21 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,184.45 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 502.68 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 337.07 ล้านบาท
นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นในช่วงเช้าบรรยากาศการลงทุนไม่ดีหลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกมาพูดว่า ธนาคารสหรัฐที่ล้มไปนั้นยังไม่จบ อาจสร้างความกังวลต่อเนื่องได้ ทำให้ภาคการเงินยังว่างใจไม่ได้ทีเดียว จึงได้ปรับลดประมาณการ GDP ของโลกปีนี้ลงมาเหลือ 2.8% นอกจากนี้ ทีมนักวิเคราะห์ธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ยังมองว่า ดัชนี S&P500 มีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้อีก 10% จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ
ส่วนช่วงบ่ายแบงก์ชาติได้พูดถึงนโยบายการเงิน และภาพเศรษฐกิจไทย โดยมองว่าการส่งออกของไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 4/65 ไปแล้ว และจะทยอยฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะเห็นภาพชัดในครึ่งหลังปี 66 ส่วนการท่องเที่ยวก็ดีอยู่แล้วหลังจากนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าไทยมากขึ้น อย่างไรก็ดี ยังเตือนถึงเงินเฟ้อที่ยังวางใจไม่ได้ แม้ว่าเงินเฟ้อเดือนมี.ค.จะชะลอตัวลง แต่ยังมีปัจจัยอื่นอีก ทำให้ตลาดในภาคบ่ายได้ลดช่วงลบลงจากภาคเช้าที่ปรับตัวลงไปมาก
นอกจากนี้ ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่จะออกมาในคืนนี้ ซึ่งตลาดคาดไว้ที่ 5.2% ซึ่งถ้าเงินเฟ้อออกมาต่ำก็จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย อีกทั้งให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอกบการของกลุ่มธนาคารในสหรัฐด้วย หลังจากที่ SVB ล้มไป ธนาคารอื่นผลประกอบการจะออกมาเป็นอย่างไร
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าตลาดคงจะผันผวนในลักษณะไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,570-1,560 จุด แนวต้าน 1,600-1,610 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 136.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.74% มูลค่าซื้อขาย 2,576.60 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 162.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.57% มูลค่าซื้อขาย 2,212.07 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 105.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.47% มูลค่าซื้อขาย 2,096.46 ล้านบาท
BDNS ปิดที่ 29.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -3.28% มูลค่าซื้อขาย 1,982.40 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 9.95 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ -0.50% มูลค่าซื้อขาย 1,709.44 ล้านบาท