หุ้นเช้านี้บวก 1.41 จุด วอลุ่มบางหลายตลาดปิด-ขาดปัจจัยใหม่

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 1.41 จุด วอลุ่มเบาบาง-หลายตลาดปิดเนื่องในวัน Good Friday และตลาดขาดปัจจัยใหม่หนุน-กังวลเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 7 เม.ย.2566 ณ เวลา 9.59 น.อยู่ที่ระดับ 1,572.54 จุด เพิ่มขึ้น 1.41 จุด หรือ +0.09% มูลค่าซื้อขาย 1,825.07 ล้านบาท

บล.กรุงศรี มอง SET อ่อนตัวแนวรับ 1,560 -1,555 จุด ภาวะตลาดขาดปัจจัยใหม่ประกอบกับมีความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐหลังข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานอ่อนแอลง นอกจากนี้แรงกดดันจาก Fund flow ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องโดยขายสุทธิ 5.8 หมื่นลบ.YTD เป็นลบต่อทิศทางการลงทุน จึงแนะนำ Selective buy หุ้นรายตัวที่ปัจจัยบวก

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มอง SET Index แกว่งในกรอบ 1,560-1,585 จุด วอลุ่มเบาบาง เพราะหลายตลาดปิดเนื่องในวัน Good Friday (ฮ่องกง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินเดีย สหรัฐ และยุโรป) ตลาดโดยรวมยังขาดปัจจัยใหม่หนุน ความกังวลยังคงอยู่ที่เศรษฐกิจทั่วโลกส่งสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น ล่าสุด IMF คาด GDP โลกในช่วง 5 ปีข้างหน้าโตเพียง 3% เป็นการเติบโตต่ำที่สุดในรอบกว่า 30 ปี เม็ดเงินยังทยอยไหลเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและปลอดภัยอย่างพันธบัตรและทองคำอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกในครึ่งหลังปี 66 คืนนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐเพื่อหาทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังวานนี้ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงน้อยกว่าคาด

ส่วนปัจจัยในประเทศ กลุ่มโรงไฟฟ้าน่าจะมีแรงเก็งกำไรหลัง กกพ. ประกาศผู้ชนะประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด 175 โรง 4,852 MW โดยมีผู้ประมูลได้ได้แก่ GULF GUNKUL SSP BGRIM RATCH GPSC BCPG EA BCP และโฟกัสหลักยังอยู่ที่การหาเสียงเลือกตั้งที่จะคึกคักในเดือน เม.ย.-พ.ค. ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในระยะสั้น กลุ่มโรงพยาบาลเป็น Defensive Play ที่น่าสนใจและมี Catalyst หากสปส.ปรับเพิ่มค่าหัวในเดือนนี้ ด้านกลยุทธ์หากดัชนีมีจังหวะพักตัวลงหาระดับ 1,550 จุดหรือต่ำกว่ายังเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน เรายังคงเน้นหุ้น Domestic/Reopening Play เป็นหลัก ระยะสั้นเน้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PLANB อยู่ที่ 7.95 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ -4.79% มูลค่าซื้อขาย 276.04 ล้านบาท
ADVANC อยู่ที่ 207.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ -0.96% มูลค่าซื้อขาย 163.01 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +1.16% มูลค่าซื้อขาย 144.87 ล้านบาท
BDMS อยู่ที่ 30.00 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.83% มูลค่าซื้อขาย 87.07 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.31% มูลค่าซื้อขาย 70.08 ล้านบาท