“วรวรรณ ธาราภูมิ” หวั่นปี 2563 ตลาดหุ้นไทยเจอปัจจัยลบ 2 เด้ง ตลาดหุ้นโลกใกล้หมดรอบตลาดกระทิง แถมไร้ LTF ช่วยรับแรงแรงกระแทก เชื่อต่ออายุ LTF ช่วยได้ แต่ทยอยลดสิทธิลดหย่อน เปิดข้อมูลผู้ลงทุน 1.19 ล้านบัญชี มีคนรวยแค่ 2 หมื่นราย
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง และประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า ในปี 2563 ตลาดหุ้นไทยเผชิญปัจจัยลบรอบด้าน เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกจะอยู่ในช่วงท้ายของวงจรตลาดขาขึ้น (Late Bull Market Cycle) และยังเป็นปีที่กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) หมดสิทธิลดหย่อนภาษี
“ในปี 2563 ตลาดหุ้นทั่วโลกจะต้องเผชิญกับเงินออก เพราะเป็นช่วง Late Bull Market Cycle นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยลบเรื่องการหยุดมาตรการ QE ของประเทศสำคัญๆ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สงครามการค้า ซึ่งจะมีผลกระทบรุนแรงอยู่แล้ว ตลาดหุ้นไทยยังต้องมาเจอกับ LTF หมดอายุอีก ซึ่งคาดว่าจะมีผลกระทบรุนแรง เพราะเงินจะไหลออกปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท” นางวรวรรณ กล่าว
นางวรวรรณ จึงเสนอความเห็นส่วนตัวให้ต่ออายุกองทุน LTF แต่ปรับเงื่อนไข โดยทยอยลดสิทธิลดหย่อนภาษีลงจากปัจจุบันลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้พึงประเมิน และสูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาท เช่น เหลือ 4 แสนบาท ต่อไปอาจจะลดเหลือ 3 แสนบาท เป็นต้น
พร้อมกันนี้ นางวรวรรณ ยังกล่าวถึงกรณีที่สภาธุรกิจตลาดทุน (FETCO) ศึกษาความเป็นไปได้ในการออกกองทุนประเภทใหม่ LTF ที่จะหมดอายุในปี 2562 โดยกองทุนใหม่จะมุ่งให้ผลประโยชน์แก่กลุ่มที่มีรายได้น้อย และรายได้ปานกลาง มากกว่ากลุ่มที่รายได้สูงนั้น เชื่อว่า จะไม่สามารถรองรับเม็ดเงินและผลกระทบจากเงินทุนที่จะไหลออกจากตลาดทุนได้
“กองทุนสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อย ที่ FETCO เสนอสิทธิภาษีลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 1 แสนบาท เป็นเหมือน LTF ธงฟ้า ซึ่ง LTF ธงฟ้า ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเงินจะไหลออกปีละแสนล้านบาท มันเยอะ” นางวรวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2561 มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน LTF ทั้งระบบอยู่ที่ 3.9 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ นางวรวรรณ เปิดเผยว่า ข้อมูลจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน พบว่า ปัจจุบันมีผู้ลงทุนกองทุน LTF 1.19 ล้านบัญชี โดยเป็นจำนวนบัญชีที่ไม่มีการนับซ้ำ และส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป ไม่ใช่ผู้ลงทุนที่มีรายได้สูงตามที่เข้าใจกัน เพราะในจำนวนนี้เป็นผู้มีรายได้สูงเพียง 2 หมื่นบัญชีเท่านั้น
ด้านนายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง กล่าวถึงแนวทางที่ บลจ.บัวหลวง เตรียมรับมือกับการยกเลิก LTF ว่า บริษัทเตรียมพร้อมโดยการสื่อสารกับลูกค้าที่ยังลงทุนไม่เต็มสิทธิภาษี แนะนำให้ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เพิ่ม
นอกจากนี้ พีรพงศ์ คาดว่า ตลาดหุ้นไทยปี 2562 น่าจะขึ้นไปถึง 1,800 จุดได้ จากปัจจัยบวกในประเทศ โดยกำไรบริษัทจดทะเบียนบางกลุ่มจะสามารถเติบโตได้ 15-29% และหุ้นที่น่าสนใจ คือ กลุ่มโรงพยาบาล ขนส่ง และพาณิชย์