HoonSmart.com>>”บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ (EA)”รุกคืบธุรกิจ EV จับมือโรงพยาบาลรามาธิบดี-การทางพิเศษแห่งประเทศไทย สร้าง “EV Smart Building” อาคารต้นแบบแห่งแรกที่ติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้ามากที่สุดในอาเซียน 578 เครื่อง รองรับการจอดรถได้ถึง 897 ช่องจอด เป็นโซลูชั่นและแพลตฟอร์มให้อาคารสูง เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม ที่ติดปัญหาติดตั้งหัวชาร์จได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า ด้านแผนงานปีนี้ ทุ่มงบลงทุน 1 หมื่นล้านบาท คาดมีรายได้ 4 หมื่นล้านบาท มาจากธุรกิจ EV 50% ส่งมอบรถทุกประเภท 4,000 คัน
โรงพยาบาลรามาธิบดี และ บริษัทพลังงานบริสุทธิ์(EA) โดยรับการสนับสนุนพื้นที่โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ร่วมทำพิธีเปิดอาคารจอดรถ รามาธิบดี – พลังงานบริสุทธิ์ ที่มีการติดตั้งระบบบริการชาร์จไฟที่ทันสมัย “EV Smart Building” by EA Anywhere ซึ่งเป็นอาคารที่มีหัวชาร์จมากที่สุดในอาเซียน จำนวน 578 เครื่อง เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2566ที่ผ่านมา
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ กล่าวว่า EA ยกระดับมิติใหม่ของระบบการจัดการพลังงานแบบเดิม สู่รูปแบบการก่อสร้างอาคารและติดตั้งระบบบริการชาร์จไฟที่ทันสมัย ในการเป็น EV Hub แห่งแรกในอาเซียน ภายใต้แนวคิด “EV Smart Building” by EA Anywhere ซึ่งถือเป็นอาคารต้นแบบแห่งแรกที่ติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้ามากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน จำนวน 578 เครื่อง พร้อมให้บริการสถานีชาร์จทั้งระบบ AC Normal Charge ขนาด 7.3 kW จำนวน 576 เครื่อง ดำเนินการครอบคลุม 100% ทุกช่องจอดรถในอาคาร และระบบ DC Fast Charge 360 kW จำนวน 2 เครื่อง คาดว่าจะพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนพ.ค.นี้
อาคารแห่งนี้ออกแบบเพื่อการ Sharing & Charging ที่ส่งเสริมผู้ใช้บริการยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมระบบการบริหารจัดการพลังงานที่ครบวงจรอย่างคุ้มค่า ด้วยนวัตกรรมการจัดการพลังงานไฟฟ้า แบบ Predictive และ Productive ให้สามารถรองรับจำนวนเครื่องชาร์จไฟฟ้าจำนวนมากได้ ไม่ต้องลงทุนในระบบโครงสร้างเพิ่มเติม และมีความสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานต่อจำนวนชั่วโมงการชาร์จ ใช้งานง่าย ควบคู่ไปกับ แอปพลิเคชันอัจฉริยะ EA Anywhere ที่สามารถ ค้นหา จอง ชาร์จ จ่าย จบได้ในแอปฯ เดียว
“โครงการอาคารจอดรถ รามาธิบดี – พลังงานบริสุทธิ์ นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะยกระดับประเทศสู่ EV Hub ด้วย Model “EV Smart Building” by EA Anywhere สู่การพัฒนาพื้นที่สำหรับ อาคารชุด อาคารสำนักงาน และอาคารขนาดใหญ่ อาทิ ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, คอนโด, Mix Use และ Community Mall ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่เดิมให้เกิดการใช้พลังงานไฟฟ้า ที่คุ้มค่า ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูงสุด” นายสมโภชน์กล่าว
ทั้งนี้ ระบบ “EV Smart Building” by EA Anywhere ได้มีการออกแบบระบบการควบคุมกำลังไฟฟ้า โดยคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการพลังงาน ซึ่งในทุกเครื่องอัดประจุไฟฟ้า จะมีการเชื่อมโยงกับระบบ Smart Monitoring ของบริษัทฯ ผ่านระบบสื่อสารแบบ Real-Time เพื่อตรวจสอบสถานะการทำงาน และ ควบคุมการจ่ายพลังงาน มาพร้อมกับการจัดลำดับความสำคัญของการใช้พลังงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ปัจจุบัน สถานีชาร์จในโครงข่าย EA Anywhere ดำเนินการโดยบริษัท พลังงานมหานคร ให้บริการแล้วกว่า 490 สถานีทั่วประเทศ และตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จไปสู่ธุรกิจการจัดการพลังงาน “EV Smart Building” by EA Anywhere ภายในสิ้นปี 2566 เพื่อให้ผู้ใช้รถ EV โดยเฉพาะผู้ใช้รถในอาคาร มีความมั่นใจในการเลือกใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น
ด้าน ศ. นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มีพันธกิจที่สำคัญในการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งแพทย์ พยาบาล รวมถึงพันธกิจในการสร้าง การพัฒนางานวิจัย อันเป็นสิ่งที่ต่อยอดจากองค์ความรู้ที่ได้รับจากการรักษาพยาบาลคนไข้มาโดยตลอด ซึ่งหนึ่งในขั้นตอนการให้บริการคนไข้นั้น ต้องให้ความสำคัญกับการบริการในด้านการเดินทางมายังโรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ให้บริการการรักษาพยาบาลในอาคารต่าง ๆ ของโรงพยาบาล โดยได้รับความเอื้อเฟื้ออย่างดีจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในการสนับสนุนพื้นที่จุดจอดรถยนต์ ทำให้ประชาชนที่มารับบริการสามารถนำรถยนต์มาจอดได้อย่างสะดวก
สำหรับประชาชนที่มารับบริการที่โรงพยาบาลรามาธิบดี สามารถนำรถยนต์เข้าจอดได้ที่อาคารจอดรถรามาธิบดี – พลังงานบริสุทธิ์ ได้ทุกวัน เวลา 05.00 – 21.00 น. โดยไม่สามารถจอดรถยนต์ค้างคืนได้
ด้านนายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA กล่าวว่า ในปี 2566 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ40,000 ล้านบาท มาจากธุรกิจ EV สัดส่วน 50% คาดส่งมอบรถ EV ทุกประเภทจำนวน 4,000 คัน ในไตรมาสแรกส่งให้ BYD จำนวน 800 คัน
ส่วนแผนลงทุนในปีนี้บริษัทจะใช้เงินทั้งสิ้น 1 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม 6,000 ล้านบาท จาก 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) เป็น 4 Gwh ซึ่งจะเป็นโรงงานขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปลี่ยนแผงโซลาร์โรงไฟฟ้า 2,000 ล้านบาท ที่จ.พิษณุโลก คาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตราผลตอบแทน 10-12% ถือว่าคุ้มค่าสำหรับการลงทุน ปีก่อนมีการเปลี่ยนแผงใหม่ที่โรงไฟฟ้าจ.ลำปาง และนครสวรรค์ รวมถึงการขยายกำลังการผลิตน้ำมันเจ็ทที่จ.ระยอง คาดแล้วเสร็จภายในปีนี้ และปรับปรุงโรงงานต่างๆ
นายอมรกล่าวว่า อาคารจอดรถรามาธิบดี-พลังงานบริสุทธิ์ บริษัทต้องการจะขายโซลูชั่นและแพลตฟอร์ม ที่มีตัวสมองควบคุมพลังงาน ให้แก่อาคารใหญ่ อาทิ คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ซึ่งไม่ต้องลงทุนติดตั้งหม้อแปลงไฟขนาดใหญ่เองทั้งหมด และปัจจุบันยังติดปัญหาในการติดตั้งหัวชาร์จได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า และสอดรับเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อมใช้พลังงานสะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง