HoonSmart.com>>3 ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวขึ้น คาดหวังเฟดใกล้ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางความกังวลเสถียรภาพระบบธนาคารทั่วโลก ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อย นำโดยกลุ่มธนาคาร ส่วนราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 22 มีนาคม2566 ปิดที่ 32,105.25 จุด เพิ่มขึ้น 75.14 จุด หรือ +0.23% แต่การซื้อขายผันผวน ด้วยความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ใกล้ยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้แล้ว ท่ามกลางความกังวลต่อเสถียรภาพของระบบธนาคารทั่วโลก
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,948.72 จุด เพิ่มขึ้น 11.75 จุด, +0.30%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,787.40 จุด เพิ่มขึ้น 117.44 จุด, +1.01%
กลุ่มธนาคารยังคงได้รับแรงกดดันโดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาค KBW Regional Bank Index ลดลงราว 3% และหุ้นธนาคารระดับภูมิภาคทั้ง หุ้น First Republic หุ้น KeyCorp และหุ้นComerica ต่างลดลงกว่า 6%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น เพราะนักลงทุนมองว่าเฟดน่าจะใกล้หยุดการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอ่อนตัวลง โดย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลงมาที่ 3.40% หุ้นไมโครซอฟต์บวก 1.97% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ เพิ่มขึ้น 2.24% หุ้นNvidia เพิ่มขึ้น 2.73%
ในการประชุมครั้งล่าสุดวันที่ 21-22 มี.ค. เฟดได้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดส่งผลให้อัตราดอกเบี้ย Fed Funds Rate ขึ้นมาที่ 4.75%-5% สูงสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2007 และส่งสัญญษนวาการต่อสู้กับเงินเฟ้อใกล้จะสิ้นสุดลง โดยการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของที่ประชุมบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีก 1 ครั้งในปีนี้ในอัตรา 0.25%
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการให้คำมั่นของนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า ฝ่ายบริหารพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบธนาคาร
“เราได้ใช้เครื่องมือที่สำคัญในการรับมือกับวิกฤติอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลาม และเป็นเครื่องมือที่เราสามารถใช้ได้อีก เราได้ดำเนินการอย่างแข็งขันพื่อให้เงินฝากของชาวอเมริกันปลอดภัย และแน่นอนว่าเราพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น” นางเยลเลน กล่าว
แบรด แมคมินแลน จาก Commonwealth Financial Network กล่าวว่า นักลงทุนเลิกสนใจการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด เพราะเป็นไปตามคาด แต่กลับมากังวลเกี่ยวกับวิกฤติในภาคการเงิน
กระทรวงแรงงานรายงานจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วว่า ลดลง 1,000 ราย มาที่ระดับ 191,000 ราย ต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ และต่ำกว่า 198,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด
กระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 1.1% มาที่ 640,000 ยูนิต เมื่อเทียบรายเดือน สูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2022 จาก 633,000 ยูนิตในเดือนมกราคม แต่เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 19.0%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อย นำโดยกลุ่มธนาคารที่อยู่ในแดนลบตลอดทั้งวันและปิดลดลง 2.5% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยวันก่อนหน้า และการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษเมื่อวานนี้
ธนาคารกลางอังกฤษประกาศขึ้นดอกเบี้ยตามคาด 0.25% สู่ระดับ 4.25% ในช่วงบ่าย หลังจากในช่วงเช้าธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.50% มาที่ 1.5%
ซิตี้กรุ๊ป ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มธนาคารลงมาที่ ‘neutral’ จาก ‘overweight’และเตือนว่า การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ต่อเนื่องยิ่งทำให้กังวลมากขึ้นต่อวิกฤติภาคธนาคารทั่วโลก แม้ปัจจัยพื้นฐานภาคธนาคารยุโรปยังแข็งแกร่ง แต่วิกฤติความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้ธนาคารลดความเสี่ยงและลดการให้สินเชื่อ
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 446.22 จุด ลดลง 0.94 จุด, -0.21%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,499.60 จุด ลดลง 67.24 จุด, -0.89%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่7,139.25 จุด เพิ่มขึ้น 8.13 จุด, +0.11%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,210.39 จุด ลดลง 5.80 จุด, -0.04%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 94 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 69.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 78 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 75.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล