ธนาคารทหารไทย กำไรจากการดำเนินงานโตเล็กน้อยจากไตรมาส 2 ต้นทุนดอกเบี้ยบานจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เพิ่ม กำไรสุทธิพุ่งกว่า 1 เท่าตัวไตรมาส 3 ได้พิเศษจากการขายบลจ.ทหารไทยและกำไรจากปริวรรตเงินตราต่างประเทศ คาดธุรกิจแบงก์ไตรมาส 4 เติบโต คุณภาพสินเชื่อดีขึ้น
ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2561 กำไรสุทธิ 5,594 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,591 ล้านบาท คิดเป็น 179% จากที่มีกำไรสุทธิ 2,003 ล้านบาทช่วงเดียวกันปีก่อน และรวม 9 เดือนกำไรสุทธิ 9,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,471 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 54% จากที่มีกำไรสุทธิ 6,429 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน
กำไรที่ดีขึ้นมาก มาจากกำไรจากการขายบลจ.ทหารไทยจำนวน 7,600 ล้านบาทและกำไรจากการเปลี่ยนแปลงการควบคุมบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วม จำนวน 4,200 ล้านบาท และยังมีรายได้จากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ จำนวน 372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7% จากไตรมาส 2 และ 48.3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 6,133 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.5% เทียบกับไตรมาส 2 แต่ลดลง 1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 2%จากไตรมาส 2 และ 1.45 จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ 8,878 ล้านบาทจาการขยายตัวของสินเชื่อได้ปานกลางและอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ลดลง แต่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาส 2 และ 7.2% จากระยะเดียวกันปีก่อน เป็นผลจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นและเงินฝากที่เพิ่มขึ้น
ส่วนผลงานรวม 9 เดือน ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 18,263 ล้านบาทลดลง 1.5% จากระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นการบัญชีเงินฝากเพื่อออมเติบโต
ธนาคารคาดแนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้ขยายตัว 4.5% คาดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น 0.25% เป็น 1.75% ณ สิ้นปี ส่วนเงินบาทผันผวน คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 32.00-33.00บาทต่อดอลลาร์ ไตรมาส 3/2561 เงินบาทเฉลี่ย 32.96 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลง 3% จากไตรมาสที่ 2
“ธุรกิจธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มที่ดีขึ้น สินเชื่อรายย่อยและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)เติบโต ได้รับผลดีจากวัฎจักรการบริโภคขาขึ้นและเศรษฐกิจเติบโต ขณะที่คุณภาพสินเชื่อมีแนวโน้มดีขึ้น”ธนาคารทหารไทยคาดการณ์