โบรกฯ เชียร์ซื้อ DTAC หลังประมูลคลื่น 900-ขาดทุน Q3 ตามคาด

โบรกฯ ประสานเสียงเชียรซื้อ DTAC หลังเข้าประมูลคลื่น 900 MHz ธุรกิจเดินหน้า ด้านงบขาดทุนไตรมาส 3 ตามคาดบันทึกรายการค่าใช้จ่ายกรณีพิพาท CAT “บล.ดีบีเอสฯ” ให้เป้า 49.50 บาท “หยวนต้า” ปรับคำแนะนำเป็น ซื้อ เป้า 53 บาท

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ ซื้อ DTAC หลังจากตัดสินใจเข้าประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ซึ่งเป็นรายเดียวและคาดว่าจะชนะประมูล จึงถือว่าหมดเรื่องค้างคาการดำเนินธุรกิจในระยะสั้น เกี่ยวกับคุณภาพการให้บริการและการดำรงธุรกิจอยู่ในไทยและกลับเข้าสู่ธุรกิจการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในภาวะปกติ

ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3/61 ซึ่งมีกำไรหลัก 24 ล้านบาท ถือว่าดีกว่าที่คาด แม้รายงานเป็นขาดทุนสุทธิ 921 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากรายการพิเศษเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกิดจากข้อถกเถียงกับ CAT ในเรื่องการเป็นเจ้าของทรัพย์สิน

“คงคำแนะนำ ซื้อแต่ปรับราคาพื้นฐานใหม่ลงมาเป็น 49.50 บาท ด้วยวิธี DCF หลังมีการปรับลดประมาณการปีนี้ลง 22% แต่ปีหน้าเพิ่ม 16% ตามแนวทางที่บริษัทให้ไว้ ราคาในกระดานยังมีอัพไซด์”บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุ

บล.หยวนต้า ปรับคำแนะนำเป็น ซื้อ ราคาเป้าหมาย 53 บาท/หุ้น โดยมองผลขาดทุนในไตรมาส 3/61 จากการตั้งด้อยค่าเสาสัมปทาน และขาดทุนปกติที่ 37 ล้านบาท เทียบกับที่ฝ่ายวิจัยคาดขาดทุนปกติ 91 ล้านบาท นอกจากนี้คาดว่าไตรมาส 4/61 จะกลับมามีกำไรปกติ 1.1 พันล้านบาท จากค่าเสื่อมราคาที่ลดลง 3.7 พันล้านบาทหลังหมดสัมปทาน เพียงพอชดเชยค่าเช่าเสาและอุปกรณ์จาก CAT การสูญเสียลูกค้า และต้นทุนการตลาดส่วนเพิ่มเพื่อรักษาฐานลูกค้าในช่วงเปลี่ยนถ่ายสัมปทาน

“ฝายวิจัยยังคงมุมมองเชิงบวกหลังตัดสินใจเข้าประมูลคลื่น 900MHz แม้ระยะสั้นค่าเสื่อมราคาคลื่นจะกระทบประมาณการกำไรปี 2561-2562 แต่รายได้จะกลับมาเติบโตในระยะยาวตาม coverage ที่เพิ่มขึ้น บนเงินลงทุนโครงข่ายที่ลดลง”บล.หยวนต้า ระบุ

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยปรับลดกำไรปี 2561-2562 ลง 4% / 21% ตามลำดับ จากการรวมต้นทุนคลื่น 900MHz เข้าไว้ในประมาณการ ปรับการเติบโตของ service revenue ex. IC ในระยะยาว เป็น 2.0% จาก 1.5% และลดเงินลงทุนต่อรายได้ระยะยาวเป็น 10% จาก 12% พร้อมกับปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2562 ที่ 53.00 บาทต่อหุ้น (DCF WACC 8.8% TG 1.5%) ราคา ณ ปัจจุบันมี Upside ถึง 24.7%จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” จากผลการดำเนินงานที่ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว

บล.ทิสโก้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 58 บาท/หุ้น มองว่าหลังการประมูลคลื่น 900 MHz น่าจะทำให้ความกังวลของ DTAC ลดลง แม้ต้นทุนการประมูลจะเพิ่มขึ้นก็ตาม คาด 5.05 หมื่นล้านบาท และมีการเช่าอุปกรณ์จาก CAT ลดลงเหลือ 3.7 พันล้านบาทต่อปี จากเดิม 4.7 พันล้านบาท

ด้านบล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เชื่อผลการดำเนินงานผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2562 อยู่ที่ 52 บาท/หุ้น 22.4% กอปรกับการประมูลคลื่น 900 ช่วยให้บริการหลังหมดอายุสัมปทานมีแนวโน้มสะดุดน้อยกว่าคาดมาก อีกทั้งงวด 4Q61 จะพลิกกลับมามีกำไรอย่างชัดเจน และเชื่อว่าในปี 2562 จะมีกำไรเติบโตโดดเด่นเกือบ 3 เท่าตัวจากปีนี้

บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 54.40 บาท/หุ้น

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คงคำแนะนำ “ถือ” โดยปรับราคาเหมาะสมที่ 41.00 บาท จากเดิม 46.00 บาท สะท้อนสถานการณ์ใหม่หลังได้คลื่น 900MHz มาครองพร้อมกับปรับไปใช้ราคาเหมาะสมของปี 2019 แม้ DTAC จะรอดพ้นจากประเด็นปริมาณคลื่นขาดแคลนซึ่ง Overhang อยู่ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามด้วยการแข่งขันที่รุนแรงและความหลากหลายของสินค้า/บริการของ DTAC ซึ่งยังเสียเปรียบคู่แข่ง การที่จะทำให้รายได้ Outrun ค่าใช้จ่ายยังเป็นสิ่งที่ท้าทายมากสำหรับบริษัท นอกจากนี้ upside จากราคาเหมาะสมจำกัด เราจึงแนะนำเพียง “ถือ”

บล.ทรีนีตี้ แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” ราคาเป้าหมาย 48 บาท/หุ้น เนื่องจากมองความเสี่ยงการสูญเสียส่วนแบ่งตลาด, ความไม่แน่นอนของการประมูลคลื่นความถี่, การปรับเปลี่ยน Technology ที่รวดเร็ว

บล.เคจีไอ ปรับประมาณการใหม่ ราคาเป้าหมาย 1H62 ของฝ่ายวิจัยลดลงจากเดิม 56.00 บาท เหลือ 46.00 บาท (DCF ใช้ WACC ที่ 11.4%) ดังนั้น จึงปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ”

บล.กสิกรไทยผิดหวังกับการที่ DTAC ตัดสินใจเข้าซื้อใบอนุญาตคลื่น 900 MHz เพราะมองว่ามีราคาตั้งต้นที่แพงเกินไปสำหรับ DTAC ที่จะสร้างกระแสเงินสดที่สามารถกลบค่าใช้จ่ายการลงทุนได้ อย่างไรก็ดี เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 47.44 บาท เพราะ 1) เราคาดว่ากำไรไตรมาส 4/2561 จะก้าวกระโดดอย่างมาก 2) ผู้บริหารตั้งเป้าหมายที่จะใช้ประโยชน์จากใบอนุญาตคลื่น 900 MHz ที่ดีขึ้น และ 3) บรรยากาศการแข่งขันที่เป็นใจมากขึ้น