“โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น” อ่วมไตรมาส 3/61 ขาดทุน 921 ล้านบาท จากงวดปีก่อนกำไร 600 ล้านบาท ปรับคาดการณ์รายได้ค่าบริการไม่รวม IC ปี 61 หดตัวลงเล็กน้อย จากเดิมคาดทรงตัว พร้อมเพิ่มงบลงทุนเป็น 1.8-2 หมื่นล้านบาท
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2561 ขาดทุนสุทธิ 921.49 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.39 บาท ผลงานแย่ลง 253% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 600.66 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.25 บาท และลดลง 614% จากไตรมาส 2 ปี 2561
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2561 กำไรสุทธิ 572.37 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.24 บาท ลดลง 63.60% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,572.58 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.66 บาท
งวดไตรมาส 3/61 บริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจาก EBITDA ลดลงเหลือ 7,192 ล้านบาท ลดลง 7.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและลดลง 5.1% จากไตรมาสก่อน โดยส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากการให้บริการลดลง ค่าใช้จ่ายบริการข้ามโครงข่าย 4G-2300 MHz ซึ่งจ่ายให้ทีโอที ซึ่งส่วนหนึ่งสามารถชดเชยได้โดยค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้และการให้ส่วนลดค่าเครื่องที่ลดลง รวมทั้งมีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 7,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากการลงทุนในครงข่าย รวมทั้งมีรายการพิเศษจากค่าตัดจำหน่ายที่เป็นผลจากการระงับข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์ในเสาโทรคมนาคมกับกสท.
ในส่วนของรายได้รวมมีจำนวน 17,963 ล้านบาท ลดลง 4.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและลดลง 4.3% จากไตรมาสที่ผ่านมา โดยเป็นผลมาจากการลดลงของรายได้จากการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์และรายได้จากการให้บริการ
นอกจากนี้บริษัทได้ปรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2561 โดยคาดว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) จะลดลงจากปีก่อนในอัตราเลขหลักเดียวช่วงต่ำ จากเดิมคาดว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวม IC ใกล้เคียงปีก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 ที่รายได้จากการให้บริการดังกล่าวลดลง 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ในขณะที่ EBITDA margin มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาอยู่ในช่วง 36-38% จากเดิมคาดไว้อยู่ในช่วง 34-36% และคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในปีนี้เพิ่มเป็น 18,000-20,000 ล้านบาท เพื่อเร่งขยายโครงข่าย 2300MHz จากเดิมคาดว่าจะใช้งบลงทุนระหว่าง 15,000-18,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามบริษัทยัคงนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิของบริษัท ขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงินและแผนการประกอบธุรกิจของบริษัทในอนาคต โดยบริษัทมีเป้าหมายจะพิจารณ่จ่ายเงินปันผลทุกครึ่งปี
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทเห็นชอบให้นาเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการรับโอนกิจการทั้งหมดจากบริษัท ดีแทค บรอดแบนด์ จำกัด (ดีแทค บรอดแบนด์) และบริษัท อีสเทิรน์ บิช จากัด (อีสเทิรน์ บิช) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียนเข้ามาในบริษัท