SABUY ทุ่ม 640 ล. ลงทุน 5 บริษัท ถือหุ้น AS เพิ่มเป็น 24.9%

HoonSmart.com>>บริษัท สบาย เทคโนโลยี หรือ SABUY ลงทุนรวม 640 ล้านบาท แบ่งเป็น 273 ล้านบาท ซื้อหุ้นบริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น AS เพิ่ม 3.67% ทำให้ถือหุ้นรวมเป็น 24.9%  ลงทุนอีก 283 ล้านบาท ใน 4 บริษัท คือ บริษัท อินโฟแกรมเมอร์ (“IFGM”) , บริษัท นิภา เทคโนโลยี (“NIPA”) , บริษัท เอสทูสมาร์ท (“S2Smart”) และ บริษัท สบาย มาสเตอร์ (“SBMST”) รวมถึงเพิ่มทุนบริษัทย่อยอีก 83.5 ล้านบาท

บริษัท สบาย เทคโนโลยี หรือ SABUY แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 17 ก.พ.66 อนุมัติเข้าลงทุนใน 5 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (“AS”), บริษัท อินโฟแกรมเมอร์ (“IFGM”) , บริษัท นิภา เทคโนโลยี (“NIPA”) , บริษัท เอสทูสมาร์ท (“S2Smart”) และ บริษัท สบาย มาสเตอร์ (“SBMST”)

1 การเข้าลงทุนในหุ้นสามัญ 18,614,000 หุ้น หรือคิดเป็น 3.67% ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง ผ่านการซื้อขายในกระดานหลักซื้อขายหลักทรัพย์ (“Main Board”) ในวงเงินไม่เกิน 272,695,100 บาท ส่งผลให้ SABUY เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน AS จาก 21.23% เป็น 24.90%

ทั้งนี้ AS เป็นผู้ให้บริการด้านความบันเทิงออนไลน์ (Online Entertainment Service) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเป็นผู้นำในการให้บริการเกมออนไลน์ (Game Online Operator) อันดับหนึ่งในประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์และอันดับสองในประเทศมาเลเซีย และประเทศเวียดนาม ปัจจุบัน AS ให้บริการเกมออนไลน์รวม 33 เกม ในประเทศไทย ประเทศสิงคโปร์ ประเทศมาเลเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศเวียดนาม และประเทศอินโดนีเซีย

2 การให้บริษัท หรือ บริษัท สบาย พอซ (“SBPOS”) เข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัท อินโฟแกรมเมอร์ (“IFGM”) 12,500 หุ้น หรือคิดเป็น  20% ของทุนจดทะเบียนภายหลังการเพิ่มทุน โดยบริษัทจะชำระค่าตอบแทน 45 ล้านบาท ให้แก่ IFGM ส่งผลให้ SABUY เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน IFGM จาก 25% เป็น 40%

ทั้งนี้ IFGM ประกอบธุรกิจผู้พัฒนาและให้บริการระบบบริหารจัดการร้านอาหารอย่างมืออาชีพครอบคลุมการใช้งานธุรกิจร้านอาหารทุกขนาดตั้งแต่ร้านขนาดเล็ก ไปจนถึงการบริหารหลายสาขา และมีประสบการณ์ในด้านระบบ Point of Sale (POS) ซึ่งมีฟังก์ชั่นการใช้งานครอบคลุมครบครัน สามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย (“ธุรกรรม IFGM”)

3 การให้บริษัท หรือ บริษัท สบาย อินฟราสตรัคเจอร์ (“SBINFR”) เข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัท นิภา เทคโนโลยี(“NIPA”) จำนวนไม่เกิน 110,525 หุ้น และหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 110,525 หุ้น จากผู้ถือหุ้นเดิมของ NIPA ซึ่งคิดเป็น 10% ของทุนจดทะเบียนภายหลังการเพิ่มทุน โดยบริษัทจะชำระค่าตอบแทน  200 ล้านบาท ให้แก่ NIPA และ กลุ่มครอบครัวจุลยา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ NIPA

ทั้งนี้ NIPA ประกอบธุรกิจผู้ให้บริการ ให้คำปรึกษา ออกแบบ และพัฒนา cloud infrastructure โดย NIPA เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Cloud solutions ที่เป็น Open Source Platform ของ Cloud Service Providers จากทั่วโลกที่เลือกใช้งาน ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดเป็นอันดับสอง รองจาก AWS และเป็นผู้ให้บริการ Cloud ไม่กี่รายในประเทศที่มีระบบให้บริการเช่นเดียวกับ Global Cloud Provider อย่างเช่น AWS Google Microsoft Huawei เป็นต้น

ผู้ใช้สามารถเข้าผ่าน https:// nipa.cloud และสามารถเลือกบริการตามความต้องและชำระเงินผ่าน Payment Gateway ได้ทันที และมีราคาให้บริการเฉลี่ยถูกกว่า Global Cloud Provider 30 – 60% ขึ้นอยู่กับบริการ โดยมีสำนักงานใหญ่และ Data Center ที่อาคารโทรคมนาคม ซึ่งเป็นอาคารที่ทำการชุมสายอินเทอร์เน็ตของประเทศไทย มีโครงสร้างเหมาะสมรองรับกับระบบ Data Center นอกจากนี้ยังมี Data Center อีกสองแห่งที่พระราม 9 และ นนทบุรี เพื่อรองรับการขยายของธุรกิจ อีกทั้ง ประกอบธุรกิจเอเจนซี่โฆษณาออนไลน์(Digital Marketing Agency) แบบครบวงจร ที่นำ innovation มาเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

4 การให้บริษัท หรือ บริษัท สบาย เอาท์ซอร์สซิ่ง (“SBOSC”) เข้าลงทุนในหุ้นสามัญ 20,000 หุ้น หรือ 80% ในบริษัท เอสทูสมาร์ท (“S2Smart”) จาก นาย ชัยชัชนนท์ ทรัพย์ประกอบ, นาย อมรเทพ โทรอุดมทรัพย์ และ นายนัทธ์ชนัน ฉ่ำแสง  ทั้งนี้ S2Smart ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาแรงงานในพื้นที่ภาคกลางเป็นหลัก โดยบริษัท จะชำระค่าตอบแทน 18,354,400 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ S2Smart

5 การเข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนใน บริษัท สบาย มาสเตอร์ (“SBMST”) 2 ล้านหุ้น หรือ 66.67% ของทุนจดทะเบียนภายหลังการเพิ่มทุน โดยบริษัทจะชำระค่าตอบแทน 20 ล้านบาท ให้แก่ SBMST ทั้งนี้ SBMST เป็นบริษัทที่ทางบริษัทได้ร่วมจัดตั้งกับ บริษัท อินดีม อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภค ผ่านช่องทาง MLM

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติการการเพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัทย่อยรวม 83.5 ล้านบาท ดังนี้

1 การเพิ่มทุนจดทะเบียนของ บริษัท สบาย อลิอันซ์ (“SBALL”) จำนวน 18.5 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 1.5 ล้านบาท เป็น 20 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญ 370,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 50 บาท และจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น

2 การเพิ่มทุนจดทะเบียนของ บริษัท ไอซอฟเทล (ประเทศไทย) (“ISOFT”) จำนวน 40 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 10 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญ 400,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท และจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น

3 การเพิ่มทุนจดทะเบียนของ บริษัท สบาย มาสเตอร์ (“SBMST”) จำนวน 25 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 5 ล้านบาท เป็น 30 ล้านบาท โดยการออกหุ้นใหม่เป็นหุ้นสามัญ 2.5 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท และจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น

 

#SABUY #AS