โบรกฯ คาดหุ้นปรับฐานความเสี่ยงตปท.เพิ่ม

โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นวันนี้ดัชนีปรับฐาน รอปัจจัยใหม่ “เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” แนะทยอยสะสมกลุ่มค้าปลีก กลุ่มก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง “กรุงศรี” คาดแรงซื้อเก็งกำไรกลุ่มแบงก์ น้ำมันหนนดัชนีช่วงอ่อนตัว แนะนำ KTB, STEC,AMATA

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาด SET ปรับฐานในกรอบ 1,670-1,710 จุด จนกว่าจะเห็นปัจจัยสนับสนุนใหม่จากทั้งต่างประเทศและในประเทศ โดยมองว่าตลาดหุ้นเข้าสู่ภาวะ Risk-off เริ่มเผชิญกับความเสี่ยงโดยเฉพาะจากปัจจัยต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยให้น้ำหนักกับประเด็น ผลกระทบในระยะกลางของสงครามการค้าที่ยังไม่มีท่าทีการเจรจาในเร็วๆ นี้ ส่งผลให้การค้าโลกลดลง สอดคล้องกับมุมมอง IMF ที่ล่าสุดปรับอัตราการเติบโตของการค้าโลกลงเหลือ 4% (-50bps)

ประเด็นที่ต้องติดตามต่อคือผลกระทบต่อภาคการส่งออก โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพิงการส่งออกสูง (ประเทศไทยมีสัดส่วนการส่งออกมากกว่า 70%ของ GDP) ยิ่งไปกว่านั้นมองว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ประเมินผลกระทบทางอ้อมของ Term การค้าใหม่ๆที่สหรัฐเจรจา เช่น การที่สหรัฐกับแคนาดาตกลงร่วมกันใช้วัสดุในประเทศผลิตเพิ่มเป็น 75% (จากเดิม 62%) และใช้แรงงานในประเทศด้วยการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำที่ 16 เหรียญ/ชั่วโมง ซึ่งนั่นจะส่งผลให้ประเทศที่เคยส่งออกชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆไปยังสหรัฐและแคนาดาได้รับผลกระทบทั้งรายได้ที่ลดลงและการจ้างงาน

สำหรับการลงทุนวันนี้ แนะทยอยสะสมกลุ่มค้าปลีกที่มีหลายปัจจัยสนับสนุน และคาดรัฐออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ได้แก่ CPALL, BJC กลุ่มก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ TEAMG, STEC, SCCC

บล.กรุงศรี มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คาดการณ์ SET Index แกว่งตัว 1,680 – 1,705 จุด เนื่องจากมีความกังวลสถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุฯกรณีการหายตัวไปอย่างลึกลับของนักข่าวซาอุฯหลังเข้าไปติดต่อธุระที่สถานกงสุลซาอุฯในนครอิสตันบูล ประกอบกับความกังวลสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐหลัง ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่จะเก็บภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ซึ่งกดดันให้ Fund Flow ต่างชาติยังคงไหลออกต่อเนื่องในตลาด Emerging market กดดันต่อทิศทางดัชนี

อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงซื้อดักงบ 3Q18 โดยสัปดาห์นี้กลุ่มธนาคารจะประกาศงบ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูงจะเป็นแรงหนุนดัชนีในจังหวะที่อ่อนตัว

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ KTB ราคาเป้าหมาย 23 บาท โดยเลือก KTB เป็นหนึ่งใน top pick กลุ่มธนาคารเนื่องจากคาดว่าจะมีผลกำไรเติบโตโดดเด่นที่สุดในปีนี้และปีหน้าประมาณ 30%yoy และ 11%yoy ตามลำดับ เป็นผลจากสินเชื่อภาครัฐที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นและได้ผลบวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น, STEC แนะนำซื้อเก็งกำไร/เป้า Consensus 28 บาท , AMATA ซื้อเก็งกำไร/เป้า Consensus 28 บาท คาดได้ผลบวกจากข่าว กนอ.เตรียมเปิดประมูลโครงการท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 มูลค่า 5.54 หมื่นล้านบาทในเดือน ต.ค.นี้