HoonSmart.com>>”แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์”(LPN) กำไรปี 65 ที่ 612.14 ล้านบาท โต 102.47% จากปีก่อน (64) ที่มีกำไร 302.34 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.42 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนทีมี 0.21 บาท จากรายได้ธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 4,705.77 ล้านบาท หรือ 84.48% เป็นรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น 108.28% พร้อมจ่ายปันผล 0.12 บาท/หุ้น ขึ้น XD 1 มี.ค.66 จ่ายปันผล 18 เม.ย. 66
บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) แจ้งว่า ผลการดำเนินงานของบริษัท และบริษัทย่อยปี 2565 มีกำไร 612.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 309.80 ล้านบาท หรือ 102.47% จากปีก่อน (2564) ที่มีกำไร 302.34 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.42 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนทีมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.21 บาท
ทั้งนี้ เกิดจากรายได้จากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 4,705.77 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 84.48 (ไตรมาส 4/2565 เพิ่มขึ้น 284.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.72) เป็นรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 108.28 (ไตรมาส 4/2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.76) บริษัท ได้มีการทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย ตกแต่งสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ และด้วยปัจจัยภายนอก เศรษฐกิจเริ่มกลับมาปกติ อีกทั้งรัฐบาลยังคงมาตรการส่งเสริมอสังหาริมทรัพย์ไว้เกือบตลอดทั้งปี แบ่งเป็นร้อยละ 45 เป็นการรับรู้รายได้จากโครงการอาคารชุดพักอาศัย ร้อยละ 30 เป็นการรับรู้รายได้จากโครงการอาคารสำนักงาน และอีกร้อยละ 25 เป็นโครงการบ้านพักอาศัย
ส่วนรายได้จากธุรกิจให้เช่า และบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.01 (ไตรมาส 4/2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.02) ด้วยสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ผ่อนคลายดีขึ้น ทำให้การเช่ายังคงเพิ่มขึ้น และรายได้ค่าบริหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.26 (ไตรมาส 4/2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.06) จากการรับบริหารโครงการ งานบริการทางวิศวกรรม รวมถึงงานบริการอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กำไรขั้นต้นจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้นจาก 1,380.70 ล้านบาท เป็น 2,252.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 63.15 (ไตรมาส 4/2565 เพิ่มขึ้นจาก 332.34 ล้านบาท เป็น 411.96 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.96)
สำหรับค่าใช้จ่ายขาย และบริหารในปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 834.30 ล้านบาท เป็น 1,269.31 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 52.14 (ไตรมาส 4/2565 เพิ่มขึ้นจาก 252.05 ล้านบาท เป็น 273.28 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.42) เกิดจากค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นตามรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ด้วยสภาวะตลาดที่ดีขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เพื่อใช้ในการดำเนินงานของกิจการทั้งในปัจจุบัน และอนาคต อีกทั้งบริษัทมีความระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่าย ด้วยเหตุผลข้างต้น จึงทำให้ในปี 2565 บริษัทมีผลกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทเพิ่มขึ้นร้อยละ 102.47 (ไตรมาส 4/2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.17)
พร้อมจ่ายปันผลงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 2565 ในอัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.12 บาทต่อหุ้น โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 2 มี.ค. 2566 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 1 มี.ค. 2566 วันที่จ่ายปันผล 18 เม.ย. 2566