หุ้นปิดลบ 5.37 จุด เงินเฟ้อสหรัฐ-งบฯไม่ดีกดดัน ต่างชาติซื้อ 5.6 พันลบ.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดลบ 5.37 จุด แนวเดียวกับตลาดภูมิภาคหลังเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด และรับแรงกดดันจากงบฯบริษัทส่วนใหญ่ออกมาไม่ดี นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 5,619.19 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 5,139.68 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ตลาดยังมีโอกาสปรับตัวลง แนวรับ 1,635 แนวต้าน 1,655 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 15 ก.พ.2566 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,647.39 จุด ลดลง 5.37 จุด หรือ -0.32% มูลค่าซื้อขาย 114,226.12 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,657.53 จุด ต่ำสุด 1,642.97 จุด

นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 5,619.19 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 797.38 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 5,139.68 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 317.86 ล้านบาท

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงเฉลี่ย 0.3-0.4% หลังเงินเฟ้อสหรัฐออกมาสูงกว่าคาด แต่จริง ๆ แล้วมองว่าถ้าปีนี้ราคาน้ำมันไม่สูงก็จะทำให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงได้ โดยปีที่แล้ว (2565) ราคาน้ำมันพุ่งไปกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ปีนี้ (2566) มองว่าราคาน้ำมันน่าจะต่ำกว่าปีที่แล้ว ซึ่งอาจอยู่แถว 75-90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้คาดว่าอีก 3 เดือนข้างหน้าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงแน่

นอกจากนี้ ตลาดฯได้รับแรงกดดันจากผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ที่ประกาศออกมาไม่ดี ซึ่งตราบใดที่ยังประกาศงบฯออกมาไม่หมดก็จะสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน โดยยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป และต้องโฟกัสประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนด้วย ซึ่งตลาดคงจะรับแรงกดดันจากงบฯมากสุดในสัปดาห์นี้ไปจนถึงต้นสัปดาห์หน้า เพราะงบฯของบริษัทขนาดใหญ่จะออกมาในสัปดาห์นี้หลายบริษัท

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) ตลาดยังมีโอกาสปรับตัวลง โดยมีแนวรับ 1,635 จุด แนวต้าน 1,655 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PQS ปิดที่ 5.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -4.17% มูลค่าซื้อขาย 9,649.39 ล้านบาท
JMT ปิดที่ 42.75 บาท ลดลง 7.25 บาท หรือ -14.50% มูลค่าซื้อขาย 3,443.69 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 141.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.70% มูลค่าซื้อขาย 2,202.42 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 157.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ -2.17% มูลค่าซื้อขาย 1,871.63 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 904.00 บาท เพิ่มขึ้น 24.00 บาท หรือ +2.73% มูลค่าซื้อขาย 1,753.14 ล้านบาท