CPALL เตรียมขายหุ้นกู้ 3 รุ่น ก.พ.นี้ ดอกเบี้ย 2.95 – 4.35%

HoonSmart.com>> “ซีพี ออลล์” เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 3 รุ่น อายุ 4 ปี อายุ 7 ปี และอายุ 12 ปี จ่ายอัตราดอกเบี้ย 2.95 – 4.35% ต่อปี เสนอขายประชาชนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบันในเดือนก.พ.66 ด้านเรทติ้งบริษัทและหุ้นกู้ระดับ A+ พร้อมตั้ง 7 สถาบันการเงินชั้นนำเป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ เดินหน้าเปิดสาขาเพิ่มอีก 700 สาขาในปีนี้

นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ Chief Financial Officer บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) เปิดเผยว่า ซีพี ออลล์เตรียมพร้อมที่จะเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 3 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.95 – 3.10% ต่อปี รุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.55 – 3.75% ต่อปี และรุ่นอายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.20 – 4.35% ต่อปี

สำหรับหุ้นกู้รุ่นอายุ 12 ปี บริษัทฯ สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ทั้งหมดหรือบางส่วนได้เมื่อหุ้นกู้ครบปีที่ 7 โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่น มีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ จะเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป คาดว่าจะเสนอภายในเดือนก.พ.2566 ผ่านสถาบันการเงิน 7 แห่งที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ , ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์,ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร รวมถึงผ่านแอปพลิเคชั่น TrueMoney Wallet

สำหรับหุ้นกู้ชุดดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 24 ม.ค.2566 ที่ระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” (Stable) ซึ่งสะท้อนถึงพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ อาทิ การเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อในประเทศไทย อีกทั้งมีการรุกขยายธุรกิจออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คือประเทศกัมพูชา และ สปป.ลาว ลักษณะของธุรกิจค้าปลีกที่สร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ ได้รับผลตอบรับสูงจากลูกค้า โดยปัจจุบันมีลูกค้าสมาชิก “All Member” อยู่มากกว่า 14 ล้านคน

ทั้งนี้ ซีพี ออลล์ เป็นผู้ประกอบธุรกิจหลักในการบริหารร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ที่ให้บริการความสะดวกกับชุมชน โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 บริษัทฯ มีสาขา “เซเว่น อีเลฟเว่น” เปิดให้บริการมากกว่า 13,000 สาขา และภายในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 700 สาขา ในรูปแบบ Standalone โดยเน้นร้านขนาดใหญ่ในรูปแบบร้านเดี่ยว (Standalone) ที่มีพื้นที่จอดรถหน้าร้าน

ส่วนการขยายสาขาในต่างประเทศ คาดว่าในปี 2566 จะเริ่มเห็นสาขาของ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ใน สปป.ลาว ขณะที่ในประเทศกัมพูชามีการเปิดสาขาไปแล้วกว่า 40 สาขา และยังจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจแบบ O2O ที่ผสมผสานช่องทาง Omni-Channel ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงบริการเดลิเวอรี่ของ ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ (7Delivery) ที่จัดส่งสินค้าถึงบ้าน ผ่านทางแอปพลิเคชั่น เพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคอีกด้วย

“การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีของผู้ลงทุนที่แสวงหาการลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ และเป็นกิจการที่มีความมั่นคงภายใต้อุตสาหกรรมค้าปลีกที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ภายหลังจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ผลการดำเนินงานของซีพี ออลล์ ในไตรมาส 3 ปี 2565 ที่ผ่านมามีการฟื้นตัวและเติบโตอย่างโดดเด่น และยังมีแนวโน้มที่ดีในผลการดำเนินงานสำหรับปี 2565 และต่อเนื่องในปี 2566 จากธุรกิจท่องเที่ยวที่เติบโตสูง อีกทั้งบริษัทฯ ยังเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนระดับโลก โดยได้รับเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI ในกลุ่มอุตสาหกรรม Food & Staples Retailing กลุ่มดัชนี DJSI Emerging Markets ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 (2017-2022) และกลุ่มดัชนี DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 (2018-2022) โดย ซีพี ออลล์ เป็นองค์กรเดียวในประเทศไทยในกลุ่มดัชนี DJSI World ของกลุ่มอุตสาหกรรมนี้อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยตอกย้ำความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนที่จะเลือกลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน” นายเกรียงชัย กล่าว