HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 252 จุด นักลงทุนกังวลมากขึ้นเฟดยังคงขึ้นดอกเบี้ย แม้สัญญาณเงินเฟ้อชะลอตัว ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ ยืนเหนือ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ส่วนใหญ่ปิดลบผิดหวัผลประกอบการ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ เจ้าหน้าที่เฟดหนุนนโยบายการเงินเข้มงวด ตลาดวิตกเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 19 มกราคม 2566 ปิดที่ 33,044.56 จุด ลดลง 252.40 จุด หรือ 0.76% นักลงทุนกังวลมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงขึ้นดอกเบี้ย แม้มีสัญญาณว่าการชะลอตัวของเงินเฟ้อ
ตลาดเต็มไปด้วยหลายปัจจัยทั้งการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ การให้ความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด และการเริ่มทะยอยรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,898.85 จุด ลดลง 30.01 จุด, -0.76%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,852.27 จุด ลดลง 104.74 จุด, -0.96%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ 3.397%
ตลาดปรับตัวลงต่อเนื่องหลังกระทรวงแรงงานรายงาน การยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วลดลงมาที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน โดยมีจำนวน 190,000 ราย ลดลง 15,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาที่ 215,000 ราย ซึ่งสะท้อนวส่าตบาดแรงงานยังแข็งแกร่งท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
เอ็ด โมยา จาก Oanda กล่าวว่า แม้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ประกาศปลดพนักงาน ตลาดแรงงานยังร้อนแรง ดังนั้นตลาดแรงงานต้องอ่อนตัวลงเพื่อให้เฟดสบายใจที่จะคงอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนทั้ง นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ และนางซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟดสาขาบอสตัน ต่างก็ให้ความเห็นสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงกว่า 5% เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมาย 2%
นายเจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกน เชส ให้สัมภาษณ์รายการ Squawk Box ของสถานีโทรทัศน์ CNBC ที่เมืองดาวอส ที่มีการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ว่า คาดว่าอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะขึ้นไปเหนือ 5% เพราะเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง
นักลงทุนยังจับตาการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนเพื่อดูว่าถดถอยหรือไม่ อย่างไรนักวิเคราะห์คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาสสี่จะลดลง 3.9% ซึ่งจะเป็นปีแรกที่ผลการดำเนินงานเมื่อเทียบรายปีลดลง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่น การสร้างบ้านใหม่เดือนธันวาคม 1.4% มาที่ 1.382 ล้านยูนิต เป็นการลดลงติดต่อกันเดือนที่ 4 ส่วนการยื่นขออนุญาตสร้างบ้านลดลง 1.6% มาที่ 1.33 ล้านยูนิต
สาขาฟิลาเดลเฟีย รายงานดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกเดือนมกราคม ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ -8.9 จาก -13.8 ในเดือนธันวาคม และสูงกว่า-10.3 ที่นักวิเคราะห์คาด
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบ เป็นการเทขายมากสุดภายในหนึ่งวัน จากความผิดหวังในผลประกอบการ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ และการให้ความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง ที่สนับสนุนนโยบายการเงินเข้มงวด ทำให้วิตกว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง
การให้ความเห็นของนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายคลาส นอต กรรมการ ที่ว่า นักลงทุนประเมินต่ำเกินไปเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ ECB ที่จะลดเงินเฟ้อลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% จาก 9.2% ในเดือนธันวาคม ได้กลบความหวังของนักลงทุนที่อยากจะเห็น ECB จะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 450.45 จุด ลดลง 7.08 จุด, -1.55%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,747.29 จุด ลดลง 83.41 จุด, -1.07%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่6,951.87 จุด ลดลง 131.52 จุด, -1.86%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,920.36 จุด ลดลง 261.44 จุด, -1.72%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ หรือ 1.07% ปิดที่ 80.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์ หรือ 1.39% ปิดที่ 86.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล