IPO จ่อเข้าตลาดกว่า 100 บริษัท-ปี’65 ฮอตระดมกว่า 1 แสนล.นำอาเซียน

HoonSmart.com>>ก.ล.ต.สรุปภาวะตลาดทุนปี 65 มีการเสนอขาย IPO 42 หลักทรัพย์ มูลค่า 127,835.82 ล้านบาท ทำให้มีมูลค่าระดมทุน มูลค่าการซื้อ-ขายต่อวันสูงเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน มาร์เก็ตแคปสูงเป็นอันดับต้นๆ ของกลุ่ม ส่วนปี 66 รอขายอีก 11 หลักทรัพย์ อยู่ระหว่างพิจารณาคำขอ 15 หลักทรัพย์ อีก 84 หลักทรัพย์เข้ามาปรึกษา ด้านตลาด mai ไฟเขียวหุ้น SAF เข้าซื้อขาย 19 ม.ค.นี้

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สรุปภาวะตลาดทุน ประจำปี 2565 มีการระดมทุนเสนอขายหลักทรัพย์ให้ประชาชนครั้งแรก(IPO) จำนวน 42 หลักทรัพย์ คิดเป็นมูลค่าเสนอขาย 127,835.82 ล้านบาท โดยกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างมีการเสนอขายสูงสุด ตามด้วยกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร

ปัจจุบันมีคำขอที่ได้รับอนุญาตและพร้อมเสนอขาย IPO จำนวน 11 หลักทรัพย์ และอยู่ระหว่างการพิจารณาคำขอ 15 หลักทรัพย์ และมีจำนวน 84 หลักทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการปรึกษาเบื้องต้นหรือ Pre-consult ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดทุนเป็นแหล่งทุนที่สำคัญและยังมีการระดมทุนผ่านตลาดทุนต่อเนื่อง

“ในปี 2565 ณ สิ้นเดือนพ.ย.  ตลาดทุนไทยมีมูลค่าระดมทุนและมูลค่าการซื้อ-ขายต่อวันสูงเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมหรือมาร์เก็ตแคป สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศในกลุ่มอาเซียน”

สำหรับการระดมทุนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล มีจำนวน 1 บริษัท คือ Destiny token มูลค่าการเสนอขาย 265.23 ล้านบาท ทำให้มีระดมทุนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งสิ้น 2 บริษัท มูลค่า 2,665.23 ล้านบาท และมีคำขอ ICO จำนวน 33 บริษัท อยู่ระหว่าง Pre-consult

ในปี 2565 ยังมีการระดมทุนผ่าน Crowdfunding สำเร็จแล้ว 308 บริษัท มูลค่ารวม 4,144.26 ล้านบาททำให้มียอด ทั้งสิ้น 364 ราย มูลค่า 5,573.05 ล้านบาท

การเสนอขายหลักทรัพย์วงแคบของ SME  มี  1 บริษัท ซึ่งมีมูลค่า 0.5 ล้านบาท ยอดสะสมจนถึงปัจจุบัน มีทั้งสิ้น 19 บริษัท มูลค่า 271.83 ล้านบาท

ส่วนตราสารหนี้ภาคเอกชน มีการออกระยะยาวมูลค่า 1,216,148 ล้านบาท แบ่งเป็นตราสาร Investment Grade 1,123,859 ล้านบาท และ High Yield Bond 92,289 ล้านบาท ณ  30 พ.ย. 2565 นอกจากนี้ตั้งแต่ต้นปี 2565 มีการออกเสนอขายตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนแล้ว จำนวน 17 บริษัท มูลค่า 221,553.67 ล้านบาท รวมสะสมทั้งสิ้น 30 บริษัท มูลค่า 522,669.78 ล้านบาท

มูลค่าตราสารหนี้ที่จะครบกำหนดภายในปี 2565-2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 0.91 ล้านล้านบาท เป็น Investment Grade bond 0.85 ล้านล้านบาท (93%) และ High Yield Bond 0.06 ล้านล้านบาท (7%)