หุ้น WICE บวก 4.85% หลังบอร์ด”ไวส์ โลจิสติกส์” หรือ WICE อนุมัติงบ 170 ล้านบาท เตรียมซื้อหุ้นคืนในตลาดไม่เกิน 13 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ระหว่างวันที่ 19 ม.ค. – 18 ก.ค. 66 นี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน รวมถึงบริหารสภาพคล่องทางการเงินและเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น ตอกย้ำฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง
เมื่อเวลา 10.15 น.หุ้น WICE บวก 4.85% มาที่ 10.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 40.80 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 10.70 บาท ขึ้นสูงสุด 10.90 บาท และต่ำสุด 10.70 บาท
นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ หรือ WICE ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/66 เมื่อวันที่ 12 ม.ค.66 มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อการบริหารทางการเงิน ในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 170 ล้านบาท เป็นจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนไม่เกิน 13 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 2.0% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยจะซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์ด้วยวิธีการจับคู่อัตโนมัติ โดยมีระยะเวลาดำเนินการให้แล้วเสร็จไม่เกิน 6 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.-18 ก.ค.66
หลักเกณฑ์ในการซื้อหุ้นคืน จะนำราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันนับจากที่บริษัทจะมีการเปิดเผยข้อมูลมาประกอบการพิจารณากำหนดราคาหุ้น โดยราคาหุ้นที่จะซื้อคืนจะไม่เกินกว่า 115% ของราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายก่อนหน้าวันที่ทำรายการซื้อหุ้นคืน ทั้งนี้ ราคาปิดของหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันทําการ ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.65 – 10 ม.ค.66 เท่ากับ 10.15 บาทต่อหุ้น (ราคาปิดถัวเฉลี่ย 30 วันทำการย้อนหลัง)
วัตถุประสงค์การซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนหรือผู้ถือหุ้นของบริษัท ทั้งในแง่ของศักยภาพการสร้างรายได้และกำไรในอนาคต รวมถึงเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) และเพิ่มอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เพื่อให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมถึงเป็นการตอกย้ำถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทอีกทางหนึ่ง
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น WICE ให้ราคาเหมาะสม 11.60 บาท โดยระบุว่า ปี 66 ภาพโดยรวมจะอ่อนตัวลงตามเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ตามคาดการณ์ของ IMF จีดีฟิโลกในปี 66 จะโต 2.7% เมื่อเทียบกับปี 65 ที่ 3.2% จากการขยายตัวของสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และจีนชะลอตัวลง ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย ทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง ) คาดมูลค่าการส่งออกในปี 66 จะโตเพียง 1% เทียบกับปี 65 ที่โต 7.4% และมูลค่าการนำเข้าในปี 66 คาดโต 0.4% จากปี 65 ที่โต 18.1% สะท้อนให้เห็นปริมาณการนำเข้าส่งออกที่ชะลอลง อีกทั้งค่าระวางเรือก็มีทิศทางที่อ่อนตัวลงจากปี 65 ซึ่งในครึ่งปีแรกปี 65 ยังคงได้ประโยชน์จากค่าระวางเรือที่สูงอยู่ ทำให้รายได้การขนส่งทางทะเลยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลง แต่ธุรกิจขนส่งทางบกข้ามแดนกับซัพพลายเชนโซลูชั่นยังมีทิศทางดีต่อเนื่อง แต่ก็ยังมองไม่สามารถชดเชยขนส่งทางทะเลที่ลดลงได้ คงต้องติดตามการเปิดประเทศของจีนที่อาจหนุนการนำเข้าส่งออกของไทยและบริษัทย่อยของ WICE ที่อยู่ในจีน
ราคาหุ้นตอบรับแนวโน้มกำไรที่จะอ่อนตัวลงมากเกินไป โดยปรับลดคาดการณ์กำไรในปี 65 ลงเป็น 582 ล้านบาท ส่วนในปี 66 คาดรายได้ที่ 7,160 ล้านบาท ลดลง 3.8% yoy และคาดการณ์กำไร 538 ล้านบาทลดลง 7.5% yoy อิง P/E 14 เท่า (-2SD จากเฉลี่ยในอดีตที่ 24.3 เท่า ราคาพื้นฐานใหม่ที่ 11.60 บาท มองราคาหุ้นปรับตัวรับผลประกอบการที่มีแนวโน้มลดลงมามากเกินไป และยังมี upside จากราคาพื้นฐานอยู่