TU ลงทุนสตาร์ทอัพฝรั่งเศส ผลิตส่วนประกอบอาหารจากสาหร่าย

HoonSmart.com>>บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU ใช้กองทุน Venture Fund ลงทุนในบริษัท อัลกามา ผู้นำด้านส่วนประกอบอาหารจากไมโครแอลจีหรือสาหร่ายขนาดเล็กจากประเทศฝรั่งเศส ส่วนประกอบอาหารจากทะเลที่มีความยั่งยืน

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU กล่าวว่า บริษัทเชื่อในการดูแลสุขภาพให้กับผู้คนควบคู่ไปกับการดูแลรักษาท้องทะเลให้อุดมสมบูรณ์  ซึ่งสาหร่ายแอลจีนับเป็นแหล่งส่วนประกอบอาหารจากทะเลที่มีความยั่งยืน สอดคล้องไปกับเป้าหมายของบริษัทในด้านความยั่งยืน  บุคลากรของอัลกามามีความสามารถและประสบการณ์ทั้งในด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ ในการที่จะสร้างให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับอุตสาหกรรมโปรตีนในวงกว้าง ไทยยูเนี่ยนมีความยินดีที่จะได้ร่วมงานกับอัลกามาต่อไป

ทั้งนี้ TU ได้ประกาศเข้าร่วมลงทุน ร่วมกับผู้ร่วมทุนเชิงกลยุทธ์รายอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม ในบริษัท อัลกามา จากประเทศฝรั่งเศสในรอบการระดมทุนซีรีย์เอ โดยอัลกามาสามารถระดมทุนได้ทั้งสิ้น 13 ล้านยูโร

นายอัลวิน เซเวอเรียง ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท อัลกามา กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับไทยยูเนี่ยนในการสร้างสรรค์ส่วนประกอบอาหารจากอาหารทะเลที่มีการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืนและดีต่อสุขภาพ และด้วยการพัฒนาสาหร่ายแอลจีที่สามารถต่อยอดได้อีกมากนี้ จะสามารถพัฒนาสินค้านวัตกรรมที่ตอบโจทย์ในอนาคตได้ไปอีกระดับ

บริษัท อัลกามา ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 โดยปัจจุบันมีธุรกิจในประเทศฝรั่งเศส สหรัฐฯ และเบลเยี่ยม ดำเนินธุรกิจนวัตกรรมการผลิตสาหร่ายเพื่อเป็นส่วนประกอบอาหารให้กับบริษัทผู้ผลิตอาหาร และเครื่องดื่มรายใหญ่ และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันและผลิตในระดับอุตสาหกรรมเพื่อทดแทนโปรตีนจากสัตว์ หรือเพื่อเสริมสารอาหารให้กับผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของอัลกามาอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทามัลกา® หรือ Tamalga® ซึ่งเป็นกลุ่มส่วนประกอบอาหาร ใช้แทนไข่ไก่ในการผลิตระดับอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสินค้าขนมอบและเบเกอรี่  การระดมทุนในรอบนี้จะช่วยผลักดันการยกระดับนวัตกรรมไปสู่เชิงพาณิชย์  พัฒนาการนำไปใช้ในแบบใหม่ๆ และสร้างโรงกลั่นชีวภาพขนาด 10,000 ตารางเมตรในเมืองลีช์ ประเทศเบลเยี่ยม

การลงทุนในอัลกามาและความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจโปรตีนทางเลือกของ TU ได้เป็นอย่างดี ตลอดจนการพัฒนาส่วนประกอบอาหารสำหรับผลิตภัณฑ์จากอาหารทะเล

สำหรับไทยยูเนี่ยนได้จัดตั้งกองทุน venture fund ขึ้นในปี 2562 โดยมุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโปรตีนทางเลือก สารอาหารเพื่อสุขภาพ และเทคโนโลยีชีวภาพ ตลอดจนห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจอาหาร และการลงทุนเชิงกลยุทธ์ต่าง ๆ โดยกองทุนนี้จะลงทุนและทำงานร่วมกับบริษัทต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อร่วมมือและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาให้สอดคล้องไปกับความมุ่งมั่นของบริษัทการดูแลความเป็นอยู่ของผู้คนควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรของท้องทะเล หรือ Healthy Living, Healthy Oceans

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป  เป็นผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลกที่นำผลิตภัณฑ์อาหารทะเลคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ อร่อย และสร้างสรรค์ มาสู่ลูกค้าทั่วโลกมาเป็นกว่า 45 ปี

ปัจจุบัน ไทยยูเนี่ยนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีเกินกว่า 141,000 ล้านบาท (4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และแรงงานทั่วโลกกว่า 44,000 คน ที่ทุ่มเทให้กับการบุกเบิกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สร้างสรรค์และยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar, Hawesta และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ OMG MEAT เบลลอตต้า และมาร์โว่ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ UniQ®BONE และ UniQ®DHA และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพแบรนด์ ZEAvita

ไทยยูเนี่ยนมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “การมีสุขภาพที่ดี และท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์, Healthy Living, Healthy Oceans” โดยให้ความสำคัญกับสุขภาพผู้คน ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ท้องทะเล เราภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact: UNGC) พร้อมทั้งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) และได้รับเกียรติเป็นเป็นประธาน SeaBOS หรือ Seafood Business for Ocean Stewardship ไทยยูเนี่ยนดำเนินงานด้านความยั่งยืนโดยยึดหลักกลยุทธ์ SeaChange® ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ จากผลการประเมินงานด้านความยั่งยืนปี 2565 บริษัทได้รับการคัดเลือกให้เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารของโลก จากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI)  เป็นสมาชิก DJSI สำหรับตลาดเกิดใหม่เป็นปีที่ 9 ปีติดต่อกัน  นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน

บริษัท อัลกามา ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 เป็นผู้ผลิตสาหร่ายไมโครแอลจีที่ใช้ในการผลิตอาหารมนุษย์รายสำคัญ  สาหร่ายแอลจีถูกใช้เป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมอาหาร บริษัทได้นำเอานักวิจัย วิศวกรและนักโภชนาการเข้าด้วยกัน โดยมีความเชี่ยวชาญตั้งแต่การเลือกสาหร่ายแอลจีในการผลิตส่วนประกอบอาหารไปจนถึงการผลิตในระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่สำหรับอาหารที่ทำจากพืชทั้งในประเทศฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ

#TU #algama #อัลกามา #ไมโครแอลจี